แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 33
1
วิธีสร้างรายได้ พิเศษจากการขายอาหารริมทางเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ ใช้เงินลงทุนไม่สูง

การขายอาหารริมทางเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการสร้างรายได้พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเสริมหรือธุรกิจเต็มเวลา ด้วยความต้องการอาหารที่สะดวกและอร่อยที่เพิ่มมากขึ้น อาหารริมทางจึงกลายเป็นโอกาสที่ทำกำไรได้สำหรับผู้ประกอบการ การหารายได้เสริมจากการขายอาหารสตรีทฟู้ดเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ เพราะใช้เงินลงทุนไม่สูงมากและหากมีทำเลที่ดีและรสชาติอร่อย ก็สามารถสร้างรายได้งาม ๆ ได้เลย

ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญบางประการในการเริ่มต้นและประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้

1. เลือกอาหารที่เหมาะสมที่จะขาย
การเลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ พิจารณาอาหารยอดนิยมและทำง่าย เช่น เสียบไม้ย่าง ของทอด อาหารเส้น หรืออาหารพิเศษประจำท้องถิ่น เน้นที่อาหารที่เป็นที่ต้องการในพื้นที่ของคุณและสอดคล้องกับทักษะการทำอาหารและงบประมาณของคุณ

2. ทำความเข้าใจกฎระเบียบในท้องถิ่น
ก่อนเริ่มต้น ตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบในท้องถิ่นเกี่ยวกับการขายอาหารริมทาง ขอใบอนุญาตที่จำเป็น ใบรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร และใบอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย

3. ค้นหาทำเลที่เหมาะสม
พื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จ พิจารณาสถานที่ใกล้กับสำนักงาน โรงเรียน ตลาด หรือสถานที่จัดงานที่ผู้คนเดินผ่านไปมาบ่อยๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่คุณเลือกได้รับอนุญาตให้ติดตั้งได้

4. ลงทุนในอุปกรณ์และส่วนผสม
ซื้ออุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องมือ และภาชนะจัดเก็บที่จำเป็น รักษาส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่อร่อยและปลอดภัย การมีแผงขายอาหารที่สะอาดและเป็นระเบียบสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

5. กำหนดราคาที่สามารถแข่งขันได้
ราคาของคุณควรสมเหตุสมผลและสามารถแข่งขันได้ พิจารณาต้นทุนของส่วนผสม เวลาในการเตรียม และราคาของคู่แข่ง การเสนออาหารชุดหรือส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้

6. โปรโมตธุรกิจของคุณ
ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram และ TikTok เพื่อจัดแสดงอาหารของคุณและดึงดูดลูกค้า โพสต์ที่น่าสนใจ รูปภาพที่น่าดึงดูด และโปรโมชั่นสามารถช่วยกระจายข่าวเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้

7. เน้นที่สุขอนามัยและการบริการลูกค้า
แผงขายที่สะอาดและถูกสุขอนามัยช่วยเพิ่มความไว้วางใจของลูกค้า สวมถุงมือ ใช้ส่วนผสมสด และรักษาความสะอาดในการเตรียมอาหาร นอกจากนี้ บริการที่เป็นมิตรและรวดเร็วสามารถช่วยสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีได้

8. นำเสนออาหารที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณภาพสูง
หากต้องการโดดเด่นกว่าคู่แข่ง ให้พิจารณานำเสนออาหารที่มีรสชาติเฉพาะตัว อาหารฟิวชั่น หรือทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ การให้บริการอาหารที่มีคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

9. ขยายธุรกิจของคุณ
เมื่อคุณสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงได้แล้ว ให้พิจารณาขยายธุรกิจโดยเสนอบริการจัดส่ง จัดเลี้ยง หรือเปิดสาขาหลายแห่ง การเป็นพันธมิตรกับแอปจัดส่งอาหารยังช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย

การเริ่มต้นธุรกิจอาหารริมทางต้องใช้ความพยายาม ความทุ่มเท และความคิดสร้างสรรค์ คุณสามารถเปลี่ยนความหลงใหลในการทำอาหารให้กลายเป็นแหล่งรายได้ที่ประสบความสำเร็จได้ โดยการเลือกอาหารที่เหมาะสม ปฏิบัติตามกฎระเบียบ รักษาความสะอาด และส่งเสริมการขายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขายอาหารริมทางแบบพาร์ทไทม์หรือฟูลไทม์ การขายอาหารริมทางสามารถเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนและทำกำไรได้

2
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


3
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


4
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) สาเหตุ อาการ วิธีรักษา รู้ทันกันได้

สาเหตุการเกิดโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานคือภาวะที่มีระดับน้ำตาลกลูโคสสูงในเลือด  ซึ่งเป็นผลจากความบกพร่องในการหลั่ง Insulin จากตับอ่อน ที่ไม่สามารถสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอหรือร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือทั้ง 2 อย่างร่วมกัน จึงไม่สามารถเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะสม

ถ้าร่างกายผลิตอินซูลินไม่พอหรืออินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่ น้ำตาลจะเข้าไปในเซลล์ไม่ได้จึงส่งผลให้เลือดมีน้ำตาลสูง เป็นโรคที่พบบ่อย 10.2% ของประชากรอายุ > 35 ปี

เช็คอาการของโรคเบื้องต้นด้วยตัวเอง

    ดื่มน้ำบ่อย
    ปัสสาวะบ่อยกลางคืน
    ตามัว
    เพลีย
    น้ำหนักตัวลดลงโดยอธิบายไม่ได้ด้วยเหตุอื่น

โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

ชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน

เกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ บางรายสร้างไม่ได้เลย พบในเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี อาการที่เกิดขึ้นจึงรุนแรงกว่า

วิธีรักษาโดยการปลูกถ่ายเซลล์ตับอ่อน ซึ่งต้องติดตามผลวิจัยต่อไป

ชนิดที่ 2 เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน

ตับอ่อนของผู้ป่วย เบาหวานชนิดที่สร้างอินซูลินได้อย่างค่อนข้างมาก แต่ร่างกายตอบสนองอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ เกิดภาวะต้านอินซูลิน ประมาณ 90% ของผู้ป่วยเบาหวานเป็น
ชนิดที่ 2

ช่วงแรกตับอ่อนจะหลั่งอินซูลินมากเพื่อรองรับความต้องการสูงขึ้น แต่แล้วตับย่อยที่ทำงานหนักจะไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้เพียงพอ เพื่อสนองกับน้ำตาลสูงๆได้

เริ่มแรก จึงรักษาด้วยการกินยาควบคุมอาหาร ไม่จำเป็นต่อใช้อินซูลิน ยกเว้นในรายที่ควบคุมอาหารได้ยาก น้ำตาลขึ้นลงเร็วหรือน้ำตาลสูงมาก จึงต้องฉีดอินซูลินเป็นบางครั้ง เมื่อใดที่ตับอ่อนสร้างอินซูลินไม่ได้ จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลิน

เนื่องจากโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่หายขาด ซึ่งการใช้ยารักษาเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถควบคุมเบาหวานได้ ดังนั้น การควบคุมอาหารและการรู้จักเลือกกินอาหารที่เหมาะสม ในปริมาณที่ถูกสัดส่วนกับความต้องการของร่างกาย จึงเป็นอีกวิธีที่เป็นการรักษาาและป้องกันโรคเบาหวาน

กลุ่มเสี่ยง

    อ้วน

    อายุมากกว่า 40 ปี

    มีภาวะความดันโลหิตสูง

    เมื่อทดสอบความทนต่อน้ำตาล (กลูโคส) ด้วยการดื่มกลูโคส 75 กรัมแล้วพบว่าระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังดื่มกลูโคสอยู่ในช่วง 140-199มก./ดล.

    มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงและระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ

    มีระดับน้ำตาลขณะอดอาหาร 8 ชั่วโมงอยู่ระหว่าง 100-125 มก./ดล.

    มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน

ข้อบ่งชี้ในการตรวจหาโรคเบาหวานในบุคคลที่ไม่ทราบว่าเป็นโรคเบาหวานมาก่อนและไม่มีอาการผิดปกติ

    อายุมากกว่า 45 ปี  ถ้าหากผลตรวจปกติควรตรวจซ้ำทุก 3 ปี
    ผู้ที่ควรได้รับการตรวจก่อนอายุ 45 ปี  หรือ ต้องมีการตรวจซ้ำเป็นระยะถี่ขึ้น  ได้แก่ผู้ที่มีปัจจัย ดังต่อไปนี้
        ดัชนีมวลกาย > 25 ( คำนวณจาก  {น้ำหนัก(kg) / ส่วนสูง2(เมตร)} )
        ประวัติโรคเบาหวานในญาติ  เช่น มี พ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นเบาหวาน
        ประวัติคลอดบุตรน้ำหนัก มากกว่า 4 กิโลกรัม หรือประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์
        ความดันโลหิตสูง มากกว่า 140/90 mmHg
        ไขมันในเลือดผิดปกติ HDL < 35 mg/dl, Triglyceride > 250 mg/dl
        เคยพบน้ำตาลหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง > 100 mg/dl
        ออกกำลังกายน้อย
        มีโรคของหลอดเลือด
        เป็นโรคถุงน้ำรังไข่ (Polycystic ovarian syndrome)

การวินิจฉัย

เกณฑ์การวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานกำหนดว่าระดับต้องเท่ากับหรือมากกว่า 126 มิลิกรัมเปอร์เซนต์ขึ้นไปและถ้าพบในคนที่มีอาการเลยต้องตรวจซ้ำให้แน่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น การวิจัยต้องเจาะเลือดตรวจเสมอ สำหรับคนที่ระดับน้ำตาลอยู่ในช่วง 101 ถึง 125 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ถือว่าผิดปกติ แต่ยังไม่เป็นเบาหวาน มีโอกาส ที่จะเกิดเบาหวานได้สูง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดใหญ่ได้

    งดอาหารหรือเครื่องดื่มที่มี Calories เป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง  แล้วเจาะระดับน้ำตาลในเลือด ได้  > 126 mg/dl
    มีอาการของโรคเบาหวาน  ร่วมกับผลน้ำตาลในเลือดเวลาใดก็ได้ของวันโดยไม่คำนึงถึงเวลาที่รับประทานอาหารมื้อสุดท้าย ได้ > 200 mg/dl  HbA1c คือ ค่าเฉลี่ยของน้ำตาลในเลือด  ในระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา  ซึ่งเป้าหมายในการรักษาคือ ควบคุมให้ระดับ HbA1c < 6.5 หรือ 7 (แล้วแต่ประเภทของผู้ป่วย)

ค่านี้มีประโยชน์เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ควบคุมอาหารอย่างดีเพียง 1-2 วันก่อนวันก่อนพบแพทย์  ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลที่ตรวจพบดี  แต่ความเป็นจริงคือ 2-3 เดือนที่ผ่านมามิได้ควบคุมตนเอง  ซึ่งค่า HbA1c จะสูงฟ้องให้เห็นทำให้แพทย์สามารถเห็นค่าน้ำตาลที่แท้จริงได้  และหากค่า HbA1c ยิ่งสูงจะเพิ่มอัตราเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรัง (หรืออันตรายภัยเงียบจากเบาหวาน)

เบาหวาน มักจะพบในคนที่อ้วน มีญาติหรือบรรพบุรุษเป็นเบาหวานมักจะมีความดันโลหิตสูง และมีไขมันในเลือดที่ผิดปกติร่วมด้วย สองโรคหลังนี้จะมีส่วนช่วยเร่งให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะส่งผลต่อหลอดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดตามมาในอนาคต จึงต้องรักษาอย่างเข้มงวด ไปพร้อมๆ กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดที่ผิดปกติ มักพบร่วมกับโรคเบาหวาน เป็นตัวเร่งให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดใหญ่

    หลอดเลือดหัวใจ : ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด  หรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย
    หลอดเลือดสมอง : ทำให้เกิดภาวะอัมพาต  อัมพฤกษ์
    หลอดเลือดส่วนปลายที่ขา : ทำให้เลือดไปเลี้ยงขาไม่เพียงพอ  มีอาการปวดน่องเวลาเดิน  และอาจทำให้เกิดแผลที่เท้าเนื่องจากการขาดเลือดไปเลี้ยง
    จอประสาทตา : ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจจอประสาทตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง  และหากพบความผิดปกติ  สามารถรักษาได้โดยการ laser เพื่อป้องกันระดับสายตาเสื่อมลงและตาบอด อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องเบาหวานขึ้นตา
    ไต : ขั้นแรกจะตรวจพบ protein รั่วออกมาในปัสสาวะ และหากไม่ระวังดูแลให้ดีอาจทำให้เกิดภาวะไตวายในอนาคตได้
    เส้นประสาท : อาการที่พบบ่อยคือ  มีอาการชา หรือ ปวดแสบปวดร้อน  หรือ ปวดรุนแรง หรือ รู้สึกชาแบบเหน็บชา หรือเหมือนถูกแทง  โดยมักมีอาการที่ปลายเท้า และ ปลายมือก่อน

หากเราไม่อยากให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานดังกล่าว เราจึงควรควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีตั้งแต่แรกวินิจฉัย  รวมทั้งตรวจหาและรักษาปัจจัยเสี่ยงที่พบร่วม อันได้แก่ ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง

การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

    ควบคุมอาหาร โดยลด ข้าว แป้ง น้ำตาล และเครื่องดื่นที่มีน้ำตาลโดยเฉพาะ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และนมเปรี้ยว
    ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30-60 นาทีต่อครั้ง 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
    งดสูบบุหรี่
    รับประทานยาหรือฉีดยาตามแพทย์แนะนำ
    รักษาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่พบร่วม ได้แก่ ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
    หากมีอาการผิดปกติ  เช่น อาเจียนมาก  รับประทานอาหารไม่ได้  ควรปรึกษาแพทย์เนื่องจากระดับน้ำตาลจะแกว่งสูงหรือต่ำได้มาก

5
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


6
จัดฟันเด็กคืออะไร? เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?

การจัดฟันเด็ก (Pediatric Orthodontics) คือ การดูแลและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับฟันและขากรรไกรในเด็ก ซึ่งจะแตกต่างจากการจัดฟันในผู้ใหญ่ เพราะเป็นการจัดฟันในช่วงที่ร่างกายของเด็กกำลังเจริญเติบโตครับ

โดยทั่วไป ทันตแพทย์จะแนะนำให้เด็กเข้ารับการตรวจและประเมินผลครั้งแรกเมื่อมีอายุประมาณ 7 ปี หรือทันทีที่เริ่มมีฟันแท้ขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจหาปัญหาเบื้องต้น เช่น ฟันกัดคร่อม หรือปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกรที่อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของใบหน้า

การจัดฟันเด็กมักจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ๆ คือ:

ระยะแรกเริ่ม (Phase I Orthodontics): มักเริ่มทำในช่วงอายุ 7-10 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างขากรรไกรและเตรียมพื้นที่ให้ฟันแท้สามารถขึ้นได้ตามปกติ

ระยะที่สอง (Phase II Orthodontics): จะทำในช่วงที่ฟันแท้ขึ้นมาเกือบครบแล้ว โดยมักใช้เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นเพื่อจัดเรียงฟันให้เข้าที่อย่างสมบูรณ์


ประเภทของเครื่องมือจัดฟันที่ใช้สำหรับเด็ก


จากการพูดคุยกันก่อนหน้าเรื่องการจัดฟันเด็กอายุ 4-7 ปี ผมจะสรุปประเภทของเครื่องมือจัดฟันที่ทันตแพทย์ใช้ในระยะแรกเริ่ม (Phase I Orthodontics) ให้ฟังนะครับ

เครื่องมือในระยะนี้จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาโครงสร้างขากรรไกรและปัญหาฟันที่ซับซ้อนในขณะที่เด็กยังมีการเจริญเติบโตอยู่ เพื่อช่วยให้การรักษาในอนาคตง่ายขึ้น เครื่องมือหลักๆ ที่ทันตแพทย์อาจแนะนำ ได้แก่:

เครื่องมือขยายขากรรไกร (Palatal Expander): ใช้สำหรับขยายเพดานปากส่วนบนที่แคบเกินไป เพื่อสร้างพื้นที่ให้ฟันแท้สามารถขึ้นได้ตามปกติ และแก้ไขปัญหาฟันสบคร่อม

เครื่องมือกันฟันล้ม (Space Maintainer): ใช้ในกรณีที่เด็กสูญเสียฟันน้ำนมก่อนเวลาอันควร โดยเครื่องมือนี้จะช่วยคงช่องว่างไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันซี่ข้างเคียงล้มเอียงเข้ามา

เครื่องมือถอดได้ (Removable Appliances): เป็นเครื่องมือที่เด็กสามารถถอดเข้า-ออกได้เอง ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาการสบฟัน หรือจัดตำแหน่งฟันบางซี่ให้เข้าที่

เครื่องมือจัดฟันบางส่วน (Partial Braces): ในบางกรณี ทันตแพทย์อาจติดเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น (Braces) แค่เพียงบางซี่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เฉพาะเจาะจง เช่น ฟันหน้ายื่น หรือฟันซ้อนที่รุนแรง

การเลือกใช้เครื่องมือจัดฟันจะขึ้นอยู่กับปัญหาของเด็กแต่ละคนครับ ทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุด

7
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



8
หมอประจำบ้าน: หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum)

หูดข้าวสุก เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายของผิวหนัง ขึ้นเป็นตุ่มกลมคล้ายโรคหูด แต่มีลักษณะผิวเรียบเป็นมัน ตรงกลางมีรอยบุ๋ม พบได้ในคนทุกอายุ แต่ส่วนใหญ่จะพบในเด็กที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (atopic dermatitis) ในผู้ใหญ่มักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้ที่เป็นเอดส์ ผู้ที่รับยากดภูมิคุ้มกัน)


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อหูดข้าวสุก ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่า เอ็มซีวี (MCV ซึ่งย่อมาจาก molluscum contagiosum virus) โรคนี้สามารถติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือทางเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย หรือโดยการใช้สระว่ายน้ำร่วมกับผู้ป่วย ระยะฟักตัว 2-7 สัปดาห์

อาการ

ขึ้นเป็นตุ่มตามผิวหนัง ไม่เจ็บไม่คัน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-6 มม. (บางครั้งอาจถึง 1-3 ซม.) มีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือสีของผิวหนัง

มีลักษณะเฉพาะคือ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก และตรงกลางมีรอยบุ๋ม ซึ่งถ้ากดหรือบีบให้แตก หรือใช้เข็มสะกิดจะมีเนื้อหูดเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา ตุ่มมักขึ้นตามลำตัว แขนขา และบริเวณอวัยวะเพศ มีลักษณะขึ้นเป็นกลุ่ม และมักพบมากกว่า 1 แห่ง

ในผู้ป่วยเอดส์มักมีตุ่มเกิดขึ้นใหม่อยู่เรื่อย ๆ มักมีขนาดใหญ่จำนวนมาก และคงอยู่นานกระจายอยู่ทั่วไป ตามศีรษะ คอ หน้า และอวัยวะเพศ

ในคนปกติที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง หูดข้าวสุกมักจะหายได้เองภายใน 6-9 เดือนโดยไม่เป็นแผลเป็น ยกเว้นในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งจะมีอาการอักเสบ และเมื่อแตกจะกลายเป็นแผลเป็นได้


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าแกะเกาอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ถ้าขึ้นที่เปลือกตาอาจทำให้เยื่อตาขาวอักเสบ 


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากลักษณะของรอยโรคเป็นหลักที่พบขึ้นเป็นตุ่มผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก และตรงกลางมีรอยบุ๋ม

หากไม่แน่ใจ จะขูดเอาเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ


การรักษาโดยแพทย์

ถ้าตุ่มขึ้นไม่มาก แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่เป็นหูดข้าวสุกด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (เช่น โพวิโดนไอโอดีน) ใช้ยาชาทาเพื่อไม่ให้ปวด แล้วใช้ปากคีบบีบหรือใช้เครื่องมือขูด (curet) หรือใช้เข็มสะกิดแล้วบีบเอาน้ำหูดข้าวสุกออกมา แล้วทาด้วยซิลเวอร์ไนเทรต (silver nitrate) ฟีนอล (phenol)

ถ้าไม่ได้ผล หรือขึ้นตุ่มจำนวนมาก แพทย์จะให้การรักษาด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้าหรือแสงเลเซอร์จี้ด้วยไนโตรเจนเหลว หรือทาด้วยกรดไตรคลอโรอะซีติกชนิด 50-70% หรือกรดซาลิไซลิกชนิด 40%

ในรายที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว แพทย์จะใช้ครีมอิมิควิมด (imiquimod) ชนิด 5% ซึ่งเป็นยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทาวันละครั้งก่อนนอนเป็นเวลา 5 วัน/สัปดาห์ จนกระทั่งหาย (อาจใช้เวลานาน 9 เดือน) จะช่วยให้หูดยุบหายหมดได้ประมาณร้อยละ 80

ในรายที่มีหูดข้าวสุกขึ้นกระจาย แพทย์จะให้กินไซเมทิดีนในขนาดสูง (30-40 มก./กก./วัน) ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันนาน 2 เดือน จะช่วยให้หายได้ใน 4 เดือน


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีตุ่มขึ้นที่ผิวหนัง ตุ่มมีลักษณะผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก และตรงกลางมีรอยบุ๋ม ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหูดข้าวสุก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยใช้ผ้าปิดแผล ปิดคลุมรอยโรคไว้ งดเล่นน้ำในสระ งดการมีเพศสัมพันธ์ถ้ามีหูดข้าวสุกในบริเวณอวัยวะเพศ และหมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่บ่อย ๆ


ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หูดข้าวสุกมีการติดเชื้อแบคทีเรียอักเสบเป็นหนอง
    มีหูดข้าวสุกเกิดขึ้นใหม่

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกเนื้อหูดข้าวสุกของผู้อื่นและของตัวเอง
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า) ร่วมกับคนที่เป็นหูดข้าวสุก 
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่
    หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ที่สมสัดส่วน และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีหูดข้าวสุกขึ้นกระจายจำนวนมาก หรือมีขนาดใหญ่ ควรส่งตรวจเลือดดูว่ามีการติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่

2. หูดข้าวสุกเมื่อรักษาหายแล้ว อาจเกิดขึ้นได้ใหม่ ควรหาทางป้องกันไม่ให้ติดเชื้อซ้ำอีก

9
จัดฟันบางนา: เครื่องมือ Invisalign เคลื่อนฟันของท่านได้อย่างไร
 
การจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะมีผลการรักษาที่แม่นยำและการจัดฟันแบบใสยังไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งแน่นอนว่า ใครที่เคยผ่านการเข้ารับการจัดฟันไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบไหน ย่อมมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน เพราะฟันถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่เราจะต้องใช้งานทุกวัน การที่เรามีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมาย หากเราดูแลไม่ดี

ดังนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีระเบียบวินัยในการทำความสะอาดช่องปากและฟัน จะต้องดูแลรักษาความสะอาดให้ดีมากเป็นพิเศษ เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่นอาจจะทำให้เราทำความสะอาดช่องปากได้ไม่สะดวก จึงอาจจะมีเศษอาหารตกค้างภายในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุและกลิ่นปาก รวมไปถึงการก่อตัวของคราบหินปูนได้ แต่การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการจัดฟันจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และยังสามารถรับประทานอาหารได้ตามใจชอบ โดยไม่มีข้ออจำกัดในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน เพราะสามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะรับประทานอาหาร หลายคนที่กำลังสนใจจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส อาจจะมีข้อสงสัยว่า ในเมื่อเราสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ แล้วเครื่องมือการจัดฟันจะช่วยทำให้เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามได้อย่างไร
 
วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ที่ต้องบอกว่า เป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา จึงทำให้การจัดฟันแบบใสได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องมือการจัดฟันแบบใส  หรือ เครื่องมือ Invisalign เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ เน้นความสวยงามเป็นหลักเนื่องจากเครื่องมือมีความโปร่งใส ช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้สะดวก ไม่ต้องทนเจ็บจากเครื่องมือแบบติดแน่น สามารถถอดใส่ง่าย รับประทานอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ

ซึ่งในระหว่างการจัดฟันที่ใส่เครื่องมือนี้ เครื่องมือจะทำการขยับฟันของท่านไปทีละน้อยๆ จนกระทั่ง ฟันทั้งหมดของผู้เข้ารับการจัดฟันเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่ทันตแพทน์ได้วางแผนเอาไว้ สำหรับหลักการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใสจะใช้การเปลี่ยนรูปร่างทีละน้อยด้วยแรงที่เบามาก จนไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดฟัน และในเครื่องมือแต่ละชิ้นที่ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องเข้ารับการปรับเครื่องมือเพื่อสร้างแรง โดยแผ่นพลาสติกใสด้านที่สัมผัสกับฟันจะค่อยๆ ส่งแรง เพื่อเคลื่อนฟันไปสู่ตำแหน่งที่กำหนดไว้ได้

ดังนั้น ข้อที่สำคัญที่สุดของกาเข้ารับการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันตามที่ทันตแพทย์กำหนด คือ วันละ 20-22 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันได้ทำงานอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งหมดนี้ก็คือ หลักการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันแบบใส หรือ เครื่องมือ Invisalign ที่มีคาวมสะดวก ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเวลาที่เครื่องมือทำงาน

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเรามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง เพราะทันตแพทย์ของเราผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมเป็นอย่างดี ด้วยการการันตีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรม

ทั้งนี้ ทางคลินิก ของเรายังได้รับการรับรองสูงสุดจาก INVISALIGN ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะการจัดฟันแบบใสจะต้องทำกับทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองแล้วเท่านั้น เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

10
หมอประจำบ้าน: มะเร็งโพรงหลังจมูก (Nasopharyngeal cancer)

มะเร็งโพรงหลังจมูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อย โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อชาติจีน พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ประมาณ 2-3 เท่า พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบมากในช่วงอายุ 50-60 ปี

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่ามีความสัมพันธ์กับเชื้อชาติ (พบในคนเชื้อชาติจีนมากกว่าคนไทย) และมีปัจจัยเสี่ยง เช่น การติดเชื้ออีบีวี (Ebstein-Barr virus/EBV) การบริโภคอาหารที่มีสารไนโตรซามีน (ซึ่งมีในเนื้อสัตว์รมควัน หมักดอง เนื้อเค็ม ปลาเค็ม) การระคายเคืองเรื้อรัง เช่น กำยาน ควันธูป ควันไฟจากการเผาไม้หรือหญ้า

ผู้ที่มีประวัติโรคนี้ในครอบครัวมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้สูงกว่าคนปกติ

อาการ

ระยะแรกมักไม่มีอาการแสดงชัดเจน ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ในระยะลุกลามแล้ว ด้วยอาการคัดแน่นจมูกข้างหนึ่ง มีน้ำมูกปนเลือด มีเลือดกำเดาไหลบ่อย หูอื้อหรือมีเสียงในหูข้างหนึ่ง (เนื่องจากก้อนมะเร็งอุดกั้นท่อยูสเตเชียน) มีก้อนแข็งข้างคอขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 ซม. (มะเร็งลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองข้างคอ) ชาและเสียวที่แก้มข้างที่เป็นมะเร็ง ตาเข เห็นภาพซ้อน (จากกล้ามเนื้อกลอกลูกตาเป็นอัมพาต จากมะเร็งที่ลุกลามกดเบียดเส้นประสาท)

นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดหู หูชั้นกลางอักเสบซึ่งกำเริบบ่อย เจ็บคอ เสียงแหบ มีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด สำลักน้ำขึ้นจมูก อ้าปากไม่ขึ้น กลืนลำบาก พูดลำบาก หายใจลำบาก เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ก้อนมะเร็งอาจลุกลามไบยังบริเวณข้างเคียง ทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจ (ทำให้หายใจลำบาก) กลืนอาหารลำบาก

ในระยะท้าย มะเร็งมักแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด (เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก), ตับ (เจ็บชายโครงขวา ตาเหลืองตัวเหลือง ท้องมาน), กระดูก (ปวดกระดูก กระดูกพรุน กระดูกหัก ปวดหลัง ไขสันหลังถูกกดทับ), สมอง (ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ แขนขาชา และเป็นอัมพาต ชัก)

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยโดยการใช้กระจกเล็ก ๆ หรือกล้องส่องเข้าไปในโพรงหลังจมูก และตัดชิ้นเนื้อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งทำการตรวจเลือดดูภูมิคุ้มกันต่อไวรัสอีบีวี (ซึ่งช่วยในการวินิจฉัยและติดตามผลภายหลังการรักษา) ตรวจชิ้นเนื้อต่อมน้ำเหลืองข้างคอ และทำการตรวจพิเศษ เช่น ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เอกซเรย์ปอด สแกนกระดูกดูการแพร่กระจายของมะเร็ง

หากพบว่าเป็นมะเร็งก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน- PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยรังสีบำบัด (การฉายรังสีหรือใส่แร่) หรือรังสีบำบัดร่วมกับเคมีบำบัด ส่วนการผ่าตัด อาจทำในกรณีที่จำเป็นต้องผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองที่คอออกไป น้อยรายที่ใช้วิธีผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งที่โพรงหลังจมูกออกไป

ผลการรักษา ถ้าเป็นระยะแรก ๆ สามารถรักษาให้หายขาดได้ (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีมากกว่าร้อยละ 70) แต่ถ้าเป็นระยะแพร่กระจาย มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 40

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการคัดแน่นจมูกข้างหนึ่งหรือหูอื้อข้างหนึ่งเรื้อรังนานเป็นสัปดาห์ ๆ, มีน้ำมูกปนเลือด, มีเลือดกำเดาไหลบ่อย, ชาและเสียวที่แก้มข้างหนึ่ง, เจ็บคอหรือปวดหูเรื้อรัง, มีก้อนแข็งข้างคอขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 ซม. เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งโพรงหลังจมูก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบและงานจิตอาสาเท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนหรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวดประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบาย เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก ซีด มีเลือดออก ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน กินไม่ได้ หายใจลำบาก เป็นต้น
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ)


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งโพรงหลังจมูกด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    ลดการบริโภคอาหารที่มีสารไนโตรซามีน (ซึ่งมีในเนื้อสัตว์รมควัน หมักดอง เนื้อเค็ม ปลาเค็ม)
    หลีกเลี่ยงการถูกสิ่งระคายเคือง เช่น กำยาน ควันธูป ควันไฟจากการเผาไม้หรือหญ้า

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีอาการคัดแน่นจมูกทุกวันนานเกิน 2-3 สัปดาห์ กินยาแก้หวัดคัดจมูกไม่ทุเลา หรือมีอาการหูอื้อข้างหนึ่งร่วมด้วย พึงสงสัยว่าอาจเป็นโรคมะเร็งโพรงหลังจมูก และควรไปปรึกษาแพทย์

2. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

11
การเตรียมตัวก่อนย้ายบ้าน กับ บริการรถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรปราการ

เมื่อคุณต้องการ บริการรถรับจ้างสมุทรปราการ ที่ครบวงจรและครอบคลุมทุกรูปแบบขนส่งในสมุทรปราการ ทางเรามีบริการ รถกระบะรับจ้าง และ รถหกล้อรับจ้าง ที่พร้อมจะบริการคุณ ให้ท่านได้เลือกใช้บริการอย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยทุกการเดินทาง

    บริการรถกระบะรับจ้าง : รถกระบะขนาดพอดีที่จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า ย้ายของ หรือใช้บริการในงานก่อสร้าง รถกระบะของเรามีความจุพร้อมให้บริการและครอบคลุมทุกประการ
    บริการรถหกล้อรับจ้าง : ถ้าคุณมีความต้องการในการขนส่งสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ขนาด รถหกล้อของเรามีความจุที่มากพอสมควรและสามารถรองรับน้ำหนักมาก ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานขนส่งทุกรูปแบบ


บริการที่คุณไว้วางใจได้

    บริการรถรับจ้างที่มีความปลอดภัยและความถูกต้อง
    ความสะดวกสบายในการจัดส่งและรับส่ง
    ค่าบริการที่เป็นกันเองและเหมาะสม
    ทีมคนงานที่มีความเชี่ยวชาญและใส่ใจในการให้บริการ


รถกระบะรับจ้างขนสินค้าออนไลน์

    วางแผนย้ายบ้านอย่างไร ให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

    กำหนดวันและเวลา : กำหนดวันและเวลาที่คุณต้องการที่จะ ย้ายบ้าน นี่คือขั้นตอนเริ่มต้นที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณมีเวลาในการจัดการและระบุรายละเอียดของการย้ายบ้าน
    สร้างรายชื่องาน : สร้างรายชื่อทุกงานที่ต้องทำก่อนการย้ายบ้าน รวมถึงการบรรจุของของใช้ การยกเลิกบริการ การเปลี่ยนที่อยู่ การตรวจสอบเอกสาร และอื่น ๆ
    จัดระเบียบของใช้ : ตรวจสอบของใช้และสินค้าที่คุณต้องการย้าย แยกแยะระหว่างของที่ควรย้ายและของที่ควรทิ้ง สิ่งที่ไม่ต้องการสามารถถูกขาย บริจาค หรือทิ้งทิ้งตามความเหมาะสม
    รายละเอียดการเช่ารถรับจ้าง : หากคุณใช้บริการรถรับจ้างในกระบวนการย้ายบ้าน, คุณควรระบุรายละเอียดของการเช่ารถรับจ้าง รวมถึงประเภทของรถ ขนาด ราคา และสถานที่รับ-ส่ง
    บรรจุของใช้ : บรรจุของใช้ให้เรียบร้อยในกล่องและหอบต่าง ๆ โดยใส่สิ่งที่หนูรู้ด้วยกระดาษหรือพลาสติกสำหรับป้องกันความเสียหาย ให้แต่ละกล่องระบุเนื้อหาและหมายเลขห้อง
    การเตรียมอุปกรณ์ : มั่นใจว่าคุณมีอุปกรณ์บริเวณเพื่อการย้ายบ้าน เช่น กล่อง เทปปิ้ง กระดาษหีบของ มีด และซิลิโคน
    รายละเอียดการย้ายที่อยู่ใหม่ : ติดต่อกับการไฟฟ้า น้ำประปา อินเทอร์เน็ต และบริการสื่อสารเพื่อปิดบริการที่ที่อยู่เก่าและเปิดบริการที่ที่อยู่ใหม่
    การบรรจุของบันทึกและเอกสาร : รักษารายละเอียดการย้าย เอกสารบ้าน รายชื่อที่เหมาะกับคนติดต่อ และเอกสารสำคัญอื่น ๆ ในกล่องเฉพาะหรือไฟล์เรียบร้อย
    แจ้งคนติดต่อ : แจ้งคนติดต่อที่จำเป็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่อยู่ของคุณ เช่น ญาติ เพื่อน และหน่วยงานที่สำคัญ
    การตรวจสอบรายละเอียดสุดท้าย : ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่พลาดข้อสำคัญใด ๆ และความพร้อมสำหรับการย้ายบ้าน

การวางแผนย้ายบ้านช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเงินในกระบวนการย้ายบ้าน และลดความสับสนและความเครียดในวันย้ายบ้าน

   
การเตรียมอุปกรณ์และของใช้ก่อนย้ายบ้าน

เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการย้ายบ้าน เนื่องจากมันช่วยให้คุณมีความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการจัดการของใช้ของคุณในการย้ายของมาที่อยู่ใหม่ของคุณ นี่คือขั้นตอนในการเตรียมอุปกรณ์และของใช้ก่อนย้ายบ้าน

    กำหนดของใช้ที่ต้องการย้าย : ทำการตรวจสอบของใช้ทั้งหมดและกำหนดของที่คุณต้องการย้ายมาที่บ้านใหม่ ลิสต์ออกชิ้นสิ่งนั้นเพื่อความชัดเจน
    สร้างกล่องหรือพื้นที่การจัดเก็บ : ใช้กล่องหรือบริเวณเก็บของเพื่อจัดเรียงของใช้ที่คุณต้องการย้าย ให้แต่ละกล่องเป็นชื่อและรายชื่อเนื้อหา
    สั่งซื้อวัสดุบรรจุ : ซื้อกล่องบรรจุ เทปปิ้ง กระดาษหีบของ และวัสดุบรรจุอื่น ๆ เพื่อช่วยในการบรรจุของใช้ให้ปลอดภัย
    แยกแยะของใช้ : แยกแยะของใช้ตามประเภทและความบ่งคอบ นี่ช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงและบรรจุของใช้อย่างมีระเบียบ
    บรรจุของใช้ : วางของใช้ในกล่องหรือหอบโดยใช้วัสดุบรรจุเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ละกล่องควรมีป้ายชื่อและรายละเอียดเนื้อหา
    การบันทึกรายละเอียด : บันทึกรายละเอียดของของใช้ที่อยู่ในกล่องหรือหอบ เช่น หมายเลขห้อง รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหา และสถานที่ที่ควรวาง
    บรรจุของใช้แต่ละวันหรือตามความเรียบร้อย : ไม่บรรจุของใช้ที่คุณอาจต้องใช้ทุกวันในกล่องหรือถาดเล็ก เพื่อให้สามารถเข้าถึงของใช้นี้ได้ง่าย
    บรรจุเครื่องมือและอุปกรณ์ : สำรองการบรรจุเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเคลื่อนย้าย เช่น กระดาษสลิง กระดาษซิลิโคน มีด เครื่องวัด และอุปกรณ์ต่าง ๆ
    รักษาของบันทึกและเอกสารสำคัญ : รักษาเอกสารสำคัญเช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับบ้าน เอกสารบ้าน สัญญาเช่า และเอกสารการเงินในที่เฉพาะหรือซองให้ความรอบรู้

การเตรียมอุปกรณ์และของใช้ก่อนย้ายบ้าน บริการรถรับจ้างสมุทรปราการ จะช่วยให้คุณมีกระบวนการย้ายที่เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และทำให้คุณลดความสับสนและความเครียดในวันย้ายบ้านรถ 6 ล้อรับจ้าง

   
การตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้าง

เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการย้ายบ้าน เพื่อให้คุณไม่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด บริการรถรับจ้างสมุทรปราการ ที่คุณสามารถรับได้ตามงบประมาณของคุณ นี่คือขั้นตอนในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้าง

    ขอใบเสนอราคา : ติดต่อบริการรถรับจ้างและขอใบเสนอราคาสำหรับการย้ายของคุณ ในใบเสนอราคา ควรระบุรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดเช่น ค่าบริการ ค่าจัดจรัส ค่าน้ำมัน ค่าแรงงาน ภาษี ค่าอุปกรณ์เสริม และค่าบริการอื่น ๆ
    แจ้งรายละเอียดการย้าย : ให้บริการรถรับจ้างทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการย้ายบ้านของคุณ รวมถึงปริมาณและขนาดของของใช้ที่ต้องการย้าย ระยะทาง และประเภทของบริการที่คุณต้องการ
    ตรวจสอบค่าใช้จ่ายแนะนำ : หากค่าใช้จ่ายที่แสดงในใบเสนอราคาอาจมีความสูงเกินกระบวนการย้ายของคุณ คุณสามารถขอคำแนะนำจากบริการรถรับจ้างว่าจะทำอย่างไรให้ลดค่าใช้จ่ายหรือจัดลดราคาให้คุณ
    สารสำคัญ : ตรวจสอบข้อกำหนดในสัญญาหรือใบเสนอราคาอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณทราบถึงข้อกำหนดเช่นเวลาการเช่า ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และนโยบายการยกเลิก
    การกระทำของการเช่า : ควรตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายถูกเรียกเก็บเมื่อบริการรถรับจ้างถูกจัดให้ในระหว่างย้ายบ้าน แนะนำให้ตรวจสอบใบเสร็จราคาหรือสัญญาก่อนที่คุณจะตรอกหรือตัดสดับข้อมูลการชำระเงิน
    การสรุป : หลังจากการตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้างอย่างรอบคอบและพิจารณารายละเอียดของสัญญาหรือใบเสนอราคา สรุปค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดและสร้างงบประมาณสำหรับการย้ายของคุณ

การตรวจสอบค่าใช้จ่ายและราคาของบริการรถรับจ้างช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดในการย้ายบ้านและให้คุณรับบริการที่มีคุณภาพในราคาที่คุณสามารถรับได้

12
บริการ รถรับจ้างย้ายบ้าน รถกระบะรับจ้างระยอง ถูกจริง บริการดี ฟรีคนยก

เมื่อเรานึกถึงบริการ  รถกระบะรับจ้างระยอง  ราคาถูก บริการดี แน่นอนว่าการบริการรถรับจ้างขนของ เป็นการบริการรับจ้างขนย้ายที่ครบวงจร ด้วย รถกระบะรับจ้างระยอง รถกระบะรับจ้างราคาถูก หรือรถรับจ้างไม่ว่าจะเป็น รถหกล้อรับจ้างระยอง รถสี่ล้อรับจ้างระยอง รถปิคอัพรับจ้างระยอง รถเครนรับจ้าง รถพ่วงรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้างระยอง นั่นเองค่ะมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของทุกท่าน โดยส่วนใหญ่แล้วในเขตพื้นที่ระยองเป็นเขตที่มีเนื้อที่ ที่มากพอสมควร มีทั้งนักท่องเที่ยวที่หลากหลายอีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวต่างมาเที่ยวพักผ่อนที่ระยอง ก็ต้องมองหาที่พักที่หลากหลายไปเที่ยวหลากหลายสถานที่จำเป็นต้องมีการขนย้ายสัมภาระต่างๆ

รถรับจ้างขนของระยองจะเอื้ออำนวยความสะดวกต่อทุกท่าน คือ เมื่อลูกค้าทุกท่านอยากขนย้ายขอให้นึกถึงเรา มาเลือกใช้บริการ รถกระบะรับจ้างระยอง กับเราได้นะค่ะ ด้วยบริการงานขนย้ายที่ราคาถูก การบริการที่ดี ไม่ว่าจะขนย้ายในระยะทางที่ใกล้ หรือไกลเรายินดีให้บริการ รถกระบะรับจ้างระยอง  เพียงโทรเข้ามาสอบถามกับเราได้ที่

บริการรรับจ้างขนของย้ายบ้าน ย้ายห้องพัก ย้ายหอ ย้ายห้องเช่า ย้ายอพาสเมนท์ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ย้ายบูธจัดแสดงสินค้า ย้ายสำนักงาน ย้ายโรงงาน ย้ายเครื่องจักร ย้ายสินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ย้ายสินค้าการเกษตร ย้ายเหล็กแผ่น ย้ายเครื่องครัว  ย้ายมอเตอร์ไซด์ ย้ายสิ่งของทุกชนิด ด้วย รถกระบะรับจ้างระยอง

ในส่วนของเขตพื้นที่ใกล้เคียงที่พร้อมให้บริการ รถกระบะรับจ้างระยอง

เขตพื้นที่เมืองระยอง

เขตพื้นที่แกลง

เขตพื้นที่เขาชะเมา

เขตพื้นที่นิคมพัฒนา

เขตพื้นที่บ้านค่าย

เขตพื้นที่บ้านฉาง

เขตพื้นที่ปลวกแดง

เขตพื้นที่วังจันทร์

เมื่อเราเปรียบเทียบว่าระหว่างเราขนย้ายของเอง หรือเราใช้บริการรถกระบะรับจ้าง ความคุ้มค่าแบบไหนที่คุ้มกว่า ถ้าเป็นการขนย้ายด้วยตัวเองจะมีความจุกจิกกว่า ไม่ว่าจะต้องยกของเอง ขับรถเอง ข้อดีก็คือจะขับไปไหนหรือแวะนอนพักที่ไหนก็ได้เมื่อเราขนย้ายแล้วเกิดความเมื่อยล้า ถ้าหากใช้บริการรถรับจ้างขนของ ด้วยรถกระบะรับจ้างแน่นอนค่ะ รถรับจ้างเหล่านี้เน้นการให้บริการเป็นหลักอยู่แล้ว จะทำการขนย้ายตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการpackของ ยกของ พร้อมทีมงานคนยก จนสิ้นสุดการขนย้าย ทุกท่านจะได้รับความสะดวกสบายเป็นหลัก ไม่ต้องมาเหนื่อยเอง เพียงแค่บอกกล่าวว่าต้นทางอยู่ที่ไหนและปลายทางอยู่ที่ไหน เท่านี้ก็เป็นข้อมูลที่เพียงพอแล้ว ดังนั้นไม่ว่าทุกท่านจะขนย้ายด้วยวิธีไหน หรือใช้บริการรถรับจ้างท่านใดขอให้ท่านศึกษาข้อมูลที่ดีก่อนการตัดสินใจ หรือให้โอการเราเป็นส่วนหนึ่งของการขนย้าย รถรับจ้างหรือบริการ รถกระบะรับจ้างระยอง ถ้าทุกท่านต้องการขนย้ายแต่ไม่รู้วิธีการวางแผนก่อนการขนย้ายทางทีมงานของเรายินดีที่จะแบ่งปันความรู้ให้ค่ะ

การวางแผนการขนย้าย

1.เตรียมเก็บของมีความใส่ไว้ในถุงเดียวกัน เพราะของมีค่ามีความจำเป็นมากที่สุดและเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าดังนั้นก่อนการเก็บของในการขนย้ายต้องเก็บของมีค่าก่อน

2.การเตรียมถุง ที่มีขนาดใหญ่ ไว้สำหรับใส่ เสื้อผ้า

3.เตรียมกล่อง และกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้สำหรับใส่ถ้วยชามที่มีความแตกหักง่าย และใส่ของจุกจิก

4.สายรัดต่างๆ หากตู้เสื้อผ้าบางบ้านของท่านไม่สามารถปิดได้ ควรต้องใช้สายรัดทำการผูกรัดให้แน่น

5.หากมีมอเตอร์ไซด์ ก็ควรใช้ผ้านวม ในการคลุมและรัดมอเตอร์ไซด์ สำหรับกันแรงเสียดสีสิ่งเหล่านี้เป็นวิธีการวางแผนที่ดีต่อการขนย้าย

การใช้บริการรถรับจ้างระยองนั้น สิ่งหนึ่งที่คุณอยากรู้มากที่สุดที่เกี่ยวกับ รถกระบะรับจ้างระยอง นั้นก็คือ เรื่องของราคา โดยคุณอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า ถ้าหากต้องเรียกใช้งานบริการ รถกระบะรับจ้าง นั้นราคาจะอยู่ที่เท่าไร จะถูกหรือแพง  ซึ่งทางเราต้องขอตอบคำถามนี้ให้กับทุกท่านได้หายข้อสงสัยกันเลยคะว่ารถขนของให้บริการในราคาถูก โดยเริ่มต้นอยู่ที่ 300 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คุณรับได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้แล้วทางเราจะดูระยะทางใกล้หรือไกลด้วย เพื่อให้ราคาเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด รถกระบะรับจ้างระยอง ไม่ได้บริการเฉพาะในเขตพื้นที่  แต่ยังให้บริการไปทั่วไทย บริการตลอดเวลา ทุกท่านจึงไม่ต้องว่าจ้างรถรับจ้างที่มาจากสถานที่อื่นๆมาจากที่ใหน เพราะรถรับจ้างขนของของเราที่นี่บริการจากจุดเริ่มต้นที่ใก้ลเคียงทุกท่านมากที่สุดจนถึงปลายทางในทุกจังหวัด

โดยมีทีมงานที่ชำนาญเส้นทาง คัดสันพนักงานที่มีคุณภาพ และมีความพร้อมของร่างกายที่จะเดินทางที่มีระยาทางไกลได้ตลอดเวลา ดังนั้น ทุกการขนย้ายที่มีระยะทางที่ไกลคุณจึงหมดห่วงกับการบริการของรถกระบะรับจ้างระยองที่มีประสบการณ์อันยาวนาน

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479



14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: ไฟฟ้าช็อต (Electric shock)

ไฟฟ้าช็อต เป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยทั้งในบ้าน โรงเรียน โรงงาน และสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้า

ผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อตอาจมีอาการรุนแรงแตกต่างกันไป (ตั้งแต่บาดแผลไหม้เพียงเล็กน้อยจนกระทั่งตาย) ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

1. ลักษณะของผิวหนังส่วนที่สัมผัสถูกไฟฟ้า ถ้าผิวหนังแห้งจะมีความต้านทานสูง เกิดอันตรายน้อย แต่ถ้าผิวหนังเปียกชื้น (เช่น มีเหงื่อ หรือเปียกน้ำ) หรือมีบาดแผลสด (เช่น ถูกมีดบาด เข็มแทง หรือแผลถลอก) จะมีความต้านทานต่ำ เกิดอันตรายได้สูง

2. ชนิดของกระแสไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสตรง (direct current) เช่น ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ หรือถ่านไฟ จะทำอันตรายได้น้อย ส่วนไฟฟ้ากระแสสลับ (alternating current) จะทำอันตรายได้มาก

กระแสไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำ (เช่น ขนาด 50-60 รอบ/วินาที) จะมีอันตรายร้ายแรงกว่าความถี่สูง กระแสไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านถือว่าเป็นชนิดที่มีอันตรายสูง

3. ตำแหน่งและทางเดินของกระแสไฟฟ้าในร่างกาย ถ้าไฟฟ้าวิ่งจากแขนไปแขน หรือแขนไปเท้า จะมีอันตรายกว่าจากเท้าลงดิน เพราะสามารถวิ่งผ่านและทำอันตรายต่อหัวใจ (ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ) ถ้ากระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านสมอง ก็อาจทำให้หยุดหายใจได้ ถ้าวิ่งผ่านกล้ามเนื้อทำให้ชัก กระดูกหัก หรือกล้ามเนื้อเป็นอัมพาตได้

4. ระยะเวลาสัมผัส ถ้ายิ่งนานก็ยิ่งมีอันตราย ผิวหนังที่สัมผัสไฟฟ้านาน ๆ จะทำให้มีเหงื่อออก ซึ่งจะลดความต้านทานลง กระแสไฟฟ้าจะเข้าร่างกายได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความร้อนในร่างกายเป็นเหตุให้เกิดบาดแผลไหม้รุนแรงได้

สาเหตุ

เกิดจากความประมาทเลินเล่อ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าผิดวิธีหรือจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์

อาการ

อาการขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าว

บางรายเมื่อถูกไฟฟ้าช็อต อาจเพียงแต่ทำให้ล้มลงกับพื้น (ถ้าตกจากที่สูงก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้) หรือของหล่นจากมือ

ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีอาการชักเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย แล้วตามด้วยอาการตื่นเต้น หายใจเร็ว และหมดสติ อาจหยุดหายใจหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้ทันที

บางรายอาจหมดสติชั่วครู่ เมื่อฟื้นขึ้นมาอาจรู้สึกปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และมีความรู้สึกหวาดผวาได้

ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เกิดบาดแผลไหม้ตรงผิวหนังและกินลึกเข้าไปในเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง ทำให้เป็นแผลไหม้สีเทาและไม่รู้สึกเจ็บ ถ้าบาดแผลมีขนาดใหญ่ อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำเช่นเดียวกับบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก และอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนได้

บางรายอาจมีกระดูกสันหลังและกระดูกส่วนอื่น ๆ หัก เนื่องจากการชักกระตุกหรือตกจากที่สูง

บางรายอาจมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก มีอาการซีด เหลือง

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ

ในรายที่สงสัยมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล ทำการตรวจดูอาการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะช็อก ภาวะขาดน้ำ บาดเเผลไหม้ กระดูกหัก เป็นต้น และให้การรักษาตามอาการที่พบ

สำหรับบาดแผลไหม้ (ถ้ามี) จะให้การดูแลรักษาแบบบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แต่ควรระวังบาดแผลที่เห็นจากภายนอก แม้จะดูเล็กน้อยแต่เนื้อเยื่อส่วนลึกอาจถูกทำลายรุนแรง (ผู้ป่วยมักเป็นบาดแผลไฟไหม้ดีกรีที่ 3) ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ หรือมีเลือดออก หรือมีการติดเชื้อในเวลาต่อมาได้

การดูแลตนเอง

เมื่อพบผู้ป่วยถูกไฟฟ้าช็อต ควรทำการปฐมพยาบาล และรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

การปฐมพยาบาล

เมื่อพบผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อต ควรรีบให้ความช่วยเหลือดังนี้

1. รีบปิดสวิตช์ไฟฟ้าหรือถอดปลั๊กไฟทันที

2. ถ้าทำไม่ได้ จำเป็นต้องช่วยให้ผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อตหลุดออกจากสายไฟที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ โดยผู้ที่ทำการช่วยเหลือจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างสูง ต้องยืนอยู่บนฉนวนแห้ง ๆ เช่น ไม้กระดาน กระดาษหนังสือพิมพ์ ผ้าห่ม เสื่อ ผ้ายาง หรือผ้า แล้วใช้ด้ามไม้กวาด ไม้กระดาน ขาเก้าอี้ไม้ หรือไม้เท้าไม้ที่แห้ง เขี่ยสายไฟให้พ้นจากผู้ป่วย หรือดันร่างกายส่วนที่สัมผัสไฟให้หลุดออกจากสายไฟ

ห้ามใช้โลหะหรือวัตถุที่เปียกน้ำเป็นอันขาด ควรใช้ไม้หรือฉนวนไฟฟ้าที่แห้ง และห้ามมิให้แตะต้องถูกตัวผู้ป่วยโดยตรง จนกว่าจะหลุดพ้นออกจากสายไฟเสียก่อน

3. ตรวจดูการหายใจ ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจทันที ถ้าหัวใจหยุดเต้น (คลำชีพจรไม่ได้) ให้ทำการนวดหัวใจพร้อมกันไป จนกว่าจะหายใจได้เอง (อ่านเพิ่มเติมใน "อาการหมดสติ")

ถ้าผู้ป่วยหายใจได้เองแต่ยังหมดสติ ควรจัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่าพักฟื้น และให้ทำการปฐมพยาบาล เช่นเดียวกับผู้ป่วยหมดสติจากสาเหตุอื่น ๆ (อ่านเพิ่มเติมใน "อาการหมดสติ")

4. รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลด่วน และควรตรวจดูการหายใจอย่างใกล้ชิด ถ้าหยุดหายใจ ควรเป่าปากช่วยไปตลอดทางจนกว่าจะถึงโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด

ไฟฟ้าช็อต
การช่วยเหลือคนที่ถูกไฟฟ้าช็อต
ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์รองไว้ใต้เท้าของผู้ช่วยเหลือ

การป้องกัน

ควรหาทางป้องกัน ด้วยการติดตั้งและซ่อมแซมสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้มีความปลอดภัยสูง (เช่น ปลั๊กไฟควรติดตั้งให้พ้นมือเด็กเล็ก อย่าให้เอาอะไรไปแหย่เล่นได้) และรู้จักใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยความระมัดระวัง

หน้า: [1] 2 3 ... 33