แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 27
1
งานฝีมือ ทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมด สุดเก๋ไม่เหมือนใคร

การทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมดเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและเครื่องมือเฉพาะทางเล็กน้อยค่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่ามาก เพราะจะได้สายนาฬิกาที่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และบ่งบอกสไตล์ของคุณได้อย่างแท้จริง

1. สิ่งที่ต้องเตรียม (อุปกรณ์และวัสดุ)

เพื่อให้สายนาฬิกาออกมาสวยงามและทนทาน การเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

หนังแท้:

หนังวัว: เป็นที่นิยมที่สุด มีหลายชนิด เช่น หนังฟอกฝาด (Vegetable-tanned leather), หนังฟอกโครม (Chrome-tanned leather), หนังออยล์ (Oil-tanned leather) ซึ่งแต่ละชนิดจะให้สัมผัส สี และการเปลี่ยนแปลงเมื่อใช้งาน (Patina) ที่แตกต่างกัน

หนังประเภทอื่นๆ: หนังจระเข้, หนังปลากระเบน, หนังงู (นิยมใช้เป็นหนังด้านนอกเพื่อความสวยงาม และใช้หนังวัวเป็นหนังซับใน)

ความหนา: เลือกความหนาของหนังให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของนาฬิกา โดยทั่วไปจะใช้หนัง 1.2-2.0 มม. สำหรับสายด้านนอก และ 0.8-1.2 มม. สำหรับหนังซับใน

หัวเข็มขัดนาฬิกา (Buckle): เลือกวัสดุ เช่น สเตนเลสสตีล ทองเหลือง หรือวัสดุอื่น ๆ ที่เข้ากับตัวเรือนนาฬิกาของคุณ

สปริงบาร์ (Spring Bars): สำหรับยึดสายนาฬิกาเข้ากับตัวเรือน (มักจะมากับนาฬิกาอยู่แล้ว)

ชุดเครื่องมือสำหรับงานหนังเบื้องต้น:

ค้อนยาง/ค้อนไม้: สำหรับตอก

แผ่นรองตอก: แผ่นยางหรือพลาสติกหนา สำหรับรองรับแรงตอก

คัตเตอร์/มีดตัดหนัง: ใบมีดคมกริบ สำหรับตัดหนัง

ไม้บรรทัดเหล็ก: สำหรับวัดและกรีดหนังให้ตรง

เหล็กตอกรูเย็บ (Prong/Stitching Chisel): สำหรับตอกนำร่องรูเย็บ ช่วยให้รอยเย็บสวยงามและเป็นระเบียบ มีหลายขนาดระยะห่างของฟัน

เหล็กตอกรูเข็มขัด/รูสปริงบาร์: มีหลายขนาด (นิยม 1.5 มม. สำหรับรูสปริงบาร์, 2.0-3.0 มม. สำหรับรูเข็มขัด)

เข็มเย็บหนัง: เข็มปลายแหลมหรือปลายทู่สำหรับเย็บหนัง

ด้ายเย็บหนัง (Waxed Thread): ด้ายเคลือบแวกซ์ มีความเหนียว ทนทาน และกันน้ำได้ดี มีหลายสี

ที่หนีบหนัง (Leather Clamp): ช่วยจับยึดชิ้นงานขณะเย็บ

ไม้ขัดขอบ (Edge Burnisher): สำหรับขัดขอบหนังให้เรียบเนียน

สีทาขอบหนัง (Edge Paint/Edge Dye): สำหรับทาสีและเคลือบขอบหนังให้สวยงามและทนทาน

กาวสำหรับงานหนัง: เช่น กาวตราช้าง (สำหรับยึดชั่วคราว), กาวยาง (สำหรับประกบหนัง)

ปากกา/ดินสอเขียนหนัง: สำหรับร่างแบบ

กระดาษทรายเบอร์ละเอียด: สำหรับขัดแต่งขอบหนัง


2. ขั้นตอนการทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมด

การทำสายนาฬิกาต้องใช้ความละเอียดและใจเย็นค่ะ โดยหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ชิ้น คือ สายด้านสั้น (ส่วนที่มีหัวเข็มขัด) และสายด้านยาว (ส่วนที่มีรูสำหรับรัด)

วัดขนาดและสร้างแพทเทิร์น:

วัดขนาด Lug Width: คือความกว้างของช่องสำหรับใส่สายนาฬิกาที่ตัวเรือน (เป็นขนาดมาตรฐานของสายนาฬิกา เช่น 18mm, 20mm, 22mm)

วัดขนาดหัวเข็มขัด: คือความกว้างของแกนหัวเข็มขัด (มักจะเล็กกว่า Lug Width เล็กน้อย)

วัดความยาวสาย: วัดจากสายนาฬิกาเดิม หรือวัดรอบข้อมือแล้วคำนวณความยาวของสายด้านสั้นและด้านยาวที่เหมาะสม

สร้างแพทเทิร์น: วาดแบบสายนาฬิกาลงบนกระดาษ (อาจจะพิมพ์จากอินเทอร์เน็ตแล้วปรับขนาด) โดยต้องมีส่วนประกอบดังนี้:

สายด้านนอก (Outer Leather): 2 ชิ้น (สั้น 1, ยาว 1)

สายซับใน (Lining Leather): 2 ชิ้น (สั้น 1, ยาว 1)

ห่วงคล้องสาย (Keepers): 2 ชิ้น (ห่วงตาย 1, ห่วงลอย 1)

ตัดกระดาษแพทเทิร์น: ตัดแบบกระดาษให้เรียบร้อย

ตัดหนัง:

วางแพทเทิร์นกระดาษลงบนหนัง (ทั้งหนังด้านนอกและหนังซับใน) และใช้ปากกา/ดินสอเขียนหนังร่างแบบ

ใช้คัตเตอร์หรือมีดตัดหนังที่คมกริบ ตัดหนังตามรอยที่ร่างไว้อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ขอบที่เรียบและคม

เตรียมหนังและติดกาว (Bonding):

ทำความสะอาดด้านในของหนังทั้งสองชิ้น (ด้านนอกและซับใน)

ทากาวยางบางๆ ที่ด้านในของหนังทั้งสองชิ้น ปล่อยให้กาวแห้งหมาดๆ (ตามคำแนะนำของกาวยาง)

ค่อยๆ วางหนังซับในลงบนหนังด้านนอกอย่างระมัดระวัง จัดให้ขอบเสมอกัน และกดให้แน่นเพื่อให้หนังติดกันดี

ตอกรูเย็บและเจาะรู:

ตอกรูเย็บ: ใช้เหล็กตอกรูเย็บ (Prong/Stitching Chisel) วางตามแนวขอบที่ต้องการจะเย็บ และใช้ค้อนยางตอกลงไปอย่างสม่ำเสมอและตรง

เจาะรูสปริงบาร์: ใช้เหล็กตอกรูเจาะขนาด 1.5 มม. เจาะรูสำหรับสปริงบาร์ที่ปลายสายทั้งสองด้าน

เจาะรูเข็มขัด: เจาะรูสำหรับแกนหัวเข็มขัดที่ปลายสายด้านสั้น และเจาะรูสำหรับรัดสายนาฬิกาที่ปลายสายด้านยาว

เจาะรูสำหรับห่วงคล้องสาย: เจาะรูเล็กๆ ที่ปลายสายด้านสั้นสำหรับเย็บห่วงตาย

เย็บหนัง (Hand Stitching):

ใช้เข็มเย็บหนังและด้ายเคลือบแวกซ์ เย็บตามรูที่ตอกนำไว้ (นิยมการเย็บแบบ Saddle Stitch ที่แข็งแรงและสวยงาม)

เย็บห่วงคล้องสาย: เย็บห่วงตายติดกับปลายสายด้านสั้น และเย็บห่วงลอย (ห่วงที่เลื่อนได้) คล้องไว้บนสายด้านยาว

ผูกปมและซ่อนปลายด้ายให้เรียบร้อย

เก็บขอบหนัง (Edge Finishing):

ใช้คัตเตอร์หรือกระดาษทรายเบอร์ละเอียด ค่อยๆ แต่งขอบหนังที่เย็บเสร็จแล้วให้เรียบเนียน

ทาสีขอบหนัง: ใช้สีทาขอบหนัง ทาไปที่ขอบที่ต้องการ ทาเป็นชั้นบางๆ ทิ้งให้แห้ง แล้วอาจทาซ้ำ 2-3 รอบ (ขึ้นอยู่กับชนิดของสี)

ขัดขอบหนัง: เมื่อสีขอบแห้งสนิท ใช้ไม้ขัดขอบ (Edge Burnisher) ขัดไปที่ขอบหนัง โดยอาจใช้ความร้อนหรือน้ำเล็กน้อยช่วย เพื่อให้ขอบเรียบเนียนและเงางาม

ติดตั้งหัวเข็มขัดและสปริงบาร์:

สอดปลายสายด้านสั้นเข้ากับหัวเข็มขัด และยึดด้วยสปริงบาร์หรือเย็บติดหากเป็นแบบที่ไม่ใช้สปริงบาร์

ติดสปริงบาร์เข้ากับปลายสายทั้งสองด้าน และนำไปประกอบเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาของคุณ


3. ไอเดียสร้างสรรค์เพื่อความ "เก๋ไม่เหมือนใคร"

เลือกชนิดหนังที่แปลกตา: เช่น หนัง Shell Cordovan (หนังม้า) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงางามและความทนทาน หรือหนังที่มีพื้นผิวพิเศษ

ใช้สีหนังและด้ายที่ตัดกัน: เช่น หนังสีดำกับด้ายสีแดง หรือหนังสีน้ำตาลกับด้ายสีฟ้า

แกะสลัก/ปั๊มลาย/เพ้นท์ลายบนหนัง: หากมีทักษะด้านศิลปะ สามารถแกะสลัก พิมพ์ หรือเพ้นท์ลวดลายเฉพาะตัวลงบนหนังได้

การเล่นกับความหนาของสาย: ทำสายให้หนาขึ้นบริเวณส่วนที่ติดกับตัวเรือน และบางลงเมื่อใกล้หัวเข็มขัด

การทำสายแบบ "Minimalist": ลดรายละเอียด การเย็บให้น้อยที่สุด เน้นความเรียบง่ายของหนังคุณภาพดี

การผสมวัสดุ: ลองเย็บผ้าบางๆ หรือผ้าพิมพ์ลายเล็กๆ ไว้เป็นชั้นซับใน หรือติดชิ้นโลหะเล็กๆ ตกแต่งบนสาย (ต้องระมัดระวังไม่ให้ไปขูดขีดนาฬิกาหรือข้อมือ)

การใช้หนังฟอกฝาด: หนังชนิดนี้จะเปลี่ยนสีเข้มขึ้นและเกิดรอยตามการใช้งาน (Patina) ทำให้สายนาฬิกามีเรื่องราวและเป็นเอกลักษณ์ตามกาลเวลา

การทำสายนาฬิกาหนังแฮนด์เมดต้องอาศัยการฝึกฝนและความอดทน แต่เป็นงานที่สนุกและคุ้มค่ามากๆ ค่ะ ขอให้คุณสนุกกับการสร้างสรรค์สายนาฬิกาสุดเก๋ไม่เหมือนใครของคุณนะคะ!

2
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: การดูแลสุขอนามัยของตนเองเพื่อป้องกัน COVID-19

การดูแลสุขอนามัยของตนเองเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ ค่ะ โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้:

ล้างมือบ่อยๆ และอย่างถูกวิธี:

ล้างด้วยสบู่และน้ำ: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที โดยเน้นถูให้ทั่วทั้งฝ่ามือ หลังมือ ซอกนิ้ว และข้อมือ โดยเฉพาะหลังจากไอ จาม สัมผัสพื้นผิวสาธารณะ หรือก่อนรับประทานอาหาร

ใช้เจลแอลกอฮอล์: หากไม่มีสบู่และน้ำ ให้ใช้เจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป ถูมือให้ทั่วจนแห้ง


หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า:

พยายามหลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสตา จมูก และปาก โดยไม่จำเป็น เพราะมืออาจปนเปื้อนเชื้อโรคจากการสัมผัสสิ่งต่างๆ และนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้


สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง:

เมื่อจำเป็น: สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี หรือเมื่อต้องใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการป่วย หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง (เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว)

สวมให้กระชับ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ากากคลุมทั้งจมูกและปากอย่างมิดชิด ไม่มีช่องว่างด้านข้าง

เปลี่ยนหน้ากาก: เปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน หรือเมื่อหน้ากากเปียกชื้น สกปรก หรือชำรุด


รักษาระยะห่างจากผู้อื่น (Social Distancing):

พยายามรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไอ จาม หรือมีไข้

หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มในสถานที่แออัด หรือในพื้นที่ปิดที่อากาศถ่ายเทไม่ดี


ไอหรือจามอย่างถูกสุขลักษณะ:

ใช้กระดาษทิชชู หรือข้อพับแขนด้านใน ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม

ทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดทันที และล้างมือให้สะอาด


ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิว:

ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ ในบ้านหรือที่ทำงาน เช่น โต๊ะ ลูกบิดประตู สวิตช์ไฟ โทรศัพท์ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม


ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง:

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผัก ผลไม้ และอาหารครบ 5 หมู่

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและเสริมภูมิคุ้มกัน

จัดการความเครียด: ความเครียดสามารถส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันได้


ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และวัคซีนอื่นๆ ที่จำเป็น:

เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มหลักและเข็มกระตุ้นตามคำแนะนำของแพทย์หรือหน่วยงานสาธารณสุข

พิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคทางเดินหายใจที่อาจมีอาการคล้ายกัน

การปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

3
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบดามอน คืออะไร

การจัดฟันมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ในปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะการจัดฟันสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณี ทำให้ผู้เข้ารับการรักษากลับมามีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ การจัดฟันสามารถแก้ไขปัญหาฟันเรียงตัวกันผิดปกติ ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อน ฟันเก หรือปัญหาบุคลิกภาพที่ทำให้มีรอยยิ้มที่ไม่มั่นใจ และการจัดฟันก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน การจัดฟันแบบใส การจัดฟันแบบเร็ว การจัดฟันแบบดามอน ซึ่งก็จะมีวิธีที่แตกต่างกัน


รวมไปถึงเครื่องมือที่ติดตั้งอยู่ภายในช่องปากของผู้เข้ารับการรักษาด้วยและการจัดฟันก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แตกต่างกัน ซึ่งการจัดฟันไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็มีข้อดีหลายข้อ หลักๆเลยคือทำให้ฟันเข้ารูป ลงตำแหน่งการสบฟันทำให้ฟันทำหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม มีฟันที่จัดกันเป็นระเบียบจะทำให้การทำความสะอาดช่องปากและฟันง่ายยิ่งขึ้น และหมดปัญหาเรื่องกลิ่นปากและยังทำให้หลีกเลี่ยงในการสูญเสียฟันในอนาคตด้วย ทั้งยังช่วยลดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการทำความสะอาดฟันเข้าถึงทุกซี่จะทำให้สุขภาพช่องปากและฟันดีขึ้นมีความสะอาด นอกจากนี้การจัดฟันอยากสร้างความมั่นใจเสริมบุคลิกภาพให้กับผู้เข้ารับการรักษาได้เป็นอย่างดีทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงามซึ่งเป็นผลดีต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้เข้ารับการรักษาเอง

ทั้งนี้ การจัดฟันยังมีผลทำให้โครงหน้า เปลี่ยนรูปหน้า เปลี่ยนทำให้หน้าคมขึ้น เรียวขึ้นดูดีขึ้น โดยไม่ต้องไปทำศัลยกรรมหรือผ่าตัดและยังแก้ไขปัญหาฟันห่างฟันเก ฟันไม่เท่ากัน ทำให้ออกเสียงพูดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบดามอน ซึ่งการจัดฟันแบบดามอน คือการจัดฟันที่ถูกเรียกตามเครื่องมือของการจัดฟัน ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการจัดฟันที่ไม่ต้องใช้ยางรัดเหมือนการจัดฟันแบบทั่วไปและยังมีจุดเด่นที่สำคัญคือ ช่วยประหยัดเวลาในการรักษามากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงและอาจจะไม่ต้องเข้ารับการถอนฟันแม้แต่ซี่เดียว ซึ่งได้รับการรับรองจากทางทันตกรรมแล้วว่าการจัดฟันแบบดามอน ช่วยลดระยะเวลาในการจัดฟันให้น้อยลงและมีข้อดีก็คือ ทำให้ฟันเคลื่อนเข้ารูปเรียงตัวกันได้รวดเร็ว ให้ความรู้สึกสบาย เจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบปกติ และทำให้พบทันตแพทย์น้อยครั้งและทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีรอยยิ้มและโครงหน้าที่สวยงามให้ความสบาย ขณะจัดฟันและสามารถรักษาความสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น ลดโอกาสการเกิดฟันผุและการเกิดโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งถือว่าให้ผลลัพธ์ดีกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป


นอกจากนี้ ยังไม่ต้องเข้ารับการถอนฟันอีกด้วยและเหมาะสำหรับทุกวัย การจัดฟันแบบดามอนอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า เป็นการจัดฟันที่ใช้ระยะเวลาน้อย และใช้การรักษาด้วยเทคโนโลยีของตัวเครื่องมือจึงเหมาะสมกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลามาพบกับทันตแพทย์บ่อยๆและยังให้ความรู้สึกสบาย เนื่องจากเป็นการเคลื่อนตัวของฟันโดยใช้แรงเบา เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดฟันแบบทั่วไปแล้วการจัดฟันแบบดามอนจะมีความสบายกว่า มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันเป็นอย่างมาก ทั้งยัง ไม่ปรับหรือดึงโครงหน้าจนเกินไปทำให้มีใบหน้าที่เข้ารูปมากยิ่งขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษาให้ดีขึ้นอีกด้วย การจัดฟันแบบดามอนนั้น สามารถรักษาความสะอาดช่องปากและฟันได้ง่ายเปรียบเทียบกับการจัดฟันแบบทั่วไปที่ทำความสะอาดช่องปากและฟันได้มากกว่าเนื่องจากมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก

สำหรับวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของผู้ที่เข้ารับการรักษาจัดฟันแบบดามอน ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องรักษาความสะอาดของฟันให้ดีด้วยการแปรงฟันให้สะอาด อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และควรใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากร่วมด้วย โดยควรเลือกใช้น้ำยาบนปากที่ผสมฟลูออไรด์เพื่อป้องกันการสะสมของคราบหินปูนและผู้เข้ารับการรักษาจะต้องเข้ามาพบกับทันตแพทย์ตามที่ทันตแพทย์ได้นัดไว้ แม้การจัดฟันแบบดามอนจะไม่ต้องมาปรับเครื่องมือการจัดฟันบ่อยๆ แต่การเข้าพบทันตแพทย์เพื่อติดตามผลก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อที่จะได้ทราบถึงปัญหาและพัฒนาการของฟันของผู้เข้ารับการรักษา ซึ่งระยะเวลาการจัดฟันแบบดามอนอยู่ที่ประมาณ 1-3 ปี แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล หากมีฟันที่ซ้อนเกก็อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบดามอนนั้น จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป แต่ผลลัพธ์ถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามทางคลินิกเรามีบริการการจัดฟันทุกรูปแบบ โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา หากคุณสนใจสามารถขอคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรายินดีให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจและใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน โดยมีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนาน ให้คำปรึกษาทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอนและยังทำให้มีบุคลิกภาพที่ดีมีรอยยิ้มที่สวยงามขึ้นอีกด้วย


4
รถยนต์ไฟฟ้า โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย มอบข้อเสนอพิเศษ "ซื้อรถชิงรถ"พร้อมยลโฉมรถยนต์คอนเซ็ปต์แห่งอนาคต

โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย แบรนด์รถยนต์ภายใต้ Chery Automobile บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ซึ่งในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ OMODA & JAECOO เข้าร่วมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ Thailand International Motor Expo 2024 ที่มาพร้อมกับแนวคิดบูธจัดแสดงภายใต้แนวคิด NEW ENERGY, NEW ECO, NEW ERA สะท้อนความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการร่วมสร้างระบบนิเวศพลังงานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างยั่งยืน ด้วยโมเดลรถสุดล้ำที่ตอบโจทย์การใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ๆ ภายในงานโอโมดา แอนด์ เจคู ได้ส่งมอบข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจต้อนรับลูกค้าเข้ามาเป็นสมาชิก OJ Club กับโปรโมชัน แคมเปญ Motor Expo Deal ร่วมเป็นเจ้าของรถ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ได้ง่าย ๆ ผ่อน OMODA C5 EV เริ่มต้นเพียง 5,000 กว่าบาทต่อเดือน(2) พร้อมรับส่วนลดสูงสุดมูลค่ากว่า 150,000 บาท** (เฉพาะรุ่น) และลุ้นรับสิทธิพิเศษอีกมากมายภายในงาน

นายฉี เจี๋ย ประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Chery Automobile ในฐานะบริษัทแม่ของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) มีประสบการณ์ด้านยานยนต์ระดับโลกมากว่า 27 ปี ที่ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (passenger car) รายใหญ่ที่สุดของจีน ด้วยยอดส่งออกกว่า 1 ล้านคัน เติบโต 24% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับโอโมดา แอนด์ เจคู ในปี 2567 ประสบความสำเร็จในการทำตลาดกว่า 32 พื้นที่ทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 360,000 คัน และได้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก นอกจากนี้ ภายในปี 2568 จะเริ่มดำเนินการผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมทั้งดำเนินสายงานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าทั้งหมดของ  Chery Automobile และ OMODA & JAECOO อีกด้วย

นายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำยานยนต์ชั้นนำระดับโลก วันนี้ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เราได้นำรถยนต์รุ่นเรือธง JAECOO 7 PHEV เวอร์ชันพวงมาลัยขวามาอวดโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยรถยนต์ JAECOO 7 PHEV ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ด้วยประสิทธิภาพประหยัดพลังงานสูงสุด มาพร้อมกับความปลอดภัยที่เหนือชั้น ที่มีระยะทางขับขี่ไฮบริดกว่า 1,000 กิโลเมตร

และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญก็คือ การเผยโฉม OMODA C9 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย OMODA C9 เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง มีกำลังขับเคลื่อนรวมสูงสุด 618 แรงม้า ที่สร้างมาตรฐานใหม่ด้านดีไซน์ความสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของกระแสน้ำ มีขุมพลังการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนแบบ Continuous Damping Control รองรับขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนน พร้อมระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ถึง 17 ฟังก์ชัน

นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์แห่งอนาคตคอนเซ็ปต์ (Concept Car) สุดล้ำมาโชว์ในเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ รถ iCar X25 รถครอสโอเวอร์ในรูปแบบ One Box off-road MPV ออฟโรดสุดแข็งแกร่ง และรถยนต์คอนเซ็ปต์ Chery Fengyun E05 กับดีไซน์คูเป้สุดโฉบเฉี่ยวที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่สุดหรูหราผสมผสานกับความสะดวกสบายตลอดเส้นทาง”

    สำหรับผู้ที่จอง JAECOO 6 EV รับข้อเสนอ แคมเปญ Motor Expo Deal: JAECOO 6 EV พร้อมทุกสภาพถนนก่อนใคร สำหรับผู้ที่จอง JAECOO 6 EV รับข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo มูลค่ากว่า 100,000 บาท** กับข้อเสนอพิเศษ ประกอบด้วย
ดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 1.68 %(2)
ฟรี! ค่าบำรุงรักษารถ ตลอดระยะเวลา 5 ปี(5) มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท*
ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง(4) มูลค่า 25,000 บาท*
ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 (ซ่อมห้าง) เป็นระยะเวลา 1 ปี(3) มูลค่า 21,000 บาท*
ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง มูลค่า 10,000 บาท*
ฟรี! Garmin รุ่นเอ็กซ์คลูซีฟ JAECOO x Garmin FORERUNNER 165 มูลค่า 9,990 บาท*
ฟรี! Application T-Box service 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท*
ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ OMODA | Earthology Studio มูลค่า 1,400 บาท*
ฟรี! พรม JAECOO มูลค่า 1,500 บาท ยี่ห้อและชนิดของพรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด*
ข้อเสนออื่น ๆ เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จองและรับรถ JAECOO 6 EV ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 1,000 คันแรก(1)
1.    การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
การรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)
การรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)
การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)
2.    ฟรี! สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า (V-to-L)*
3.    ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger*

และสำหรับผู้ที่จองรถ OMODA C5 EV โอโมดา แอนด์ เจคู มีแคมเปญ Motor Expo Deal รับข้อเสนอเดียวกับ Motor Expo มูลค่ากว่า 150,000 บาท** กับข้อเสนอพิเศษ ประกอบด้วย
เลือกรับ ดอกเบี้ย 0% หรือ ขับฟรี 3 เดือน และช่วยผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลา 8 เดือน หรือ ดอกเบี้ย 0% และช่วยผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลา 9 เดือน หรือ ดาวน์ต่ำ 10% และช่วยผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลา 9 เดือน*
ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง(4) มูลค่า 25,000 บาท*
ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 (ซ่อมห้าง) เป็นระยะเวลา 1 ปี(3) มูลค่า 19,000 บาท*
ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง มูลค่า 10,000 บาท*
ฟรี!  Application T-Box service 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท*
ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ OMODA | Earthology Studio มูลค่า 1,400 บาท*
ฟรี! พรม OMODA มูลค่า 1,500 บาท ยี่ห้อและชนิดของพรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด*

ข้อเสนออื่น ๆ เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จองและรับรถ OMODA C5 EV ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 1,000 คันแรก(1)

1.    ฟรี! การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
การรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)
การรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)
การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)
2.    ฟรี! สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า (V-to-L) เฉพาะรุ่น OMODA C5 EV Long Range Ultimate*
3.    ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger*

 ฉลองโอกาสพิเศษส่งท้ายปี! ลูกค้า OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ที่จดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,539,000 บาท โดยจะจับรางวัลในวันที่ 23 มกราคม 2568 และประกาศผู้โชคดี 28 มกราคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท ประกอบด้วยของรางวัลดังนี้
รถยนต์ OMODA C5 EV Long Rang Plus จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 899,000 บาท
สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 30 รางวัล มูลค่า 390,000  บาท
บัตรชาร์ตรถไฟฟ้า มูลค่า 2,500 บาท จำนวน 100 รางวัล มูลค่า 250,000  บาท
และพิเศษสำหรับลูกค้า JAECOO 6 EV มีสิทธิ์ ซื้อชุดแต่งในราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ของมีจำนวนจำกัด

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ามาชมและสัมผัสรถคันจริงได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป บูธโอโมดา แอนด์ เจคู (A01) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี หรือทดลองขับขี่และจองรถ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศของ OMODA & JAECOO ทั้ง 22 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย

 ข้อกำหนดและเงื่อนไข
(1) ข้อเสนอพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่รับมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567
(2) สถาบันการเงินที่ร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด และ โดยการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด
(3) เฉพาะบริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการกับทางบริษัทฯ เท่านั้น ได้แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)
(4) ติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 15 เมตร (1 ครั้ง) จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ หากต้องการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
(5) ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) โดยลูกค้าต้องนำรถเข้ารับการบำรุงรักษาทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตลอดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น เพื่อรักษาสิทธิการบำรุงรักษาตามระยะทาง และเป็นไปตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถใหม่
*ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้างต้นโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
**ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

หมายเหตุ:
โปรแกรมส่งเสริมการขายนี้สำหรับรถไฟฟ้า OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV เท่านั้น ทั้งนี้ไม่รวมรถฟลีทบางประเภท (กรุณาสอบถามรายละเอียดรุ่นรถฟลีทที่ร่วมรายการกับบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด)

5
การสร้างอาชีพ จากการขายเมี่ยงคำ อาหารไทยรสชาติกลมกล่อมที่เสิร์ฟมาในขนาดพอดีคำ มีธาตุอาหารครบ 5 หมู่อยู่ในคำเดียวกัน

เมี่ยงคำเป็นอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะมีธาตุอาหารครบ 5 หมู่อยู่ในคำเดียวกัน โดยไม่มีการบันทึกประวัติความเป็นมา แต่พิจารณาจากลักษณะของอาหารที่ใช้ทรัพยากรหลายอย่างจากสวน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอาหารของชาวสวนแต่เดิม และอาจดัดแปลงมาจากเมี่ยงของชาวภาคเหนือ โดยเปลี่ยนใบเมี่ยงที่ใช้ห่อมาเป็นพืชผักในสวนภาคกลางแทน

เมี่ยงคำเป็นอาหารว่างไทยโบราณที่ผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสของอาหารไทยได้อย่างลงตัว เมี่ยงคำเป็นขนมขนาดพอดีคำที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย จึงเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบอาหารเรียกน้ำย่อยที่สดชื่นและมีคุณค่าทางโภชนาการ

เมี่ยงคำคืออะไร ?
เมี่ยงคำ แปลว่า “ห่อใบชะพลู” เป็นอาหารที่ทำจากใบชะพลูสดที่ห่อด้วยวัตถุดิบหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละอย่างก็ให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การผสมผสานรสชาติหวาน เค็ม เปรี้ยว และเผ็ดเข้าด้วยกันสร้างรสชาติที่ระเบิดความอร่อยในทุกคำที่กัด

ส่วนผสมที่สำคัญ
แต่ละห่อเมี่ยงคำได้รับการประกอบอย่างพิถีพิถันด้วย:

ใบพลู – ส่วนฐานของแผ่นห่อ มีรสขมเล็กน้อยและมีกลิ่นดิน
กุ้งแห้ง – เพิ่มรสอูมามิแสนอร่อย
มะพร้าวคั่ว – ช่วยให้กลิ่นหอม และรสชาติถั่วคั่ว
ถั่วลิสง – เพิ่มความกรุบกรอบและความเข้มข้น
หอมแดง – มีกลิ่นฉุนคล้ายหัวหอมเล็กน้อย
มะนาว (พร้อมเปลือก) – ให้ความสดชื่นและกลิ่นส้ม
พริกขี้หนู – เพิ่มความเผ็ดร้อน
ขิง – เพิ่มความอบอุ่นและความสดชื่น
ซอสหวาน – โดยทั่วไปทำจากน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา และมะขาม เพื่อผูกรสชาติทั้งหมดเข้าด้วยกัน

วิธีรับประทานเมี่ยงคำ
วิธีรับประทานเมี่ยงคำนั้นก็เพียงแค่นำใบพลูมาวางส่วนผสมแต่ละอย่างในปริมาณเล็กน้อยตรงกลาง ราดซอสหวานลงไปด้านบน ห่อด้วยกระดาษห่อเล็กๆ แล้วรับประทานให้หมดในคำเดียว รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ผสมผสานกันนี้ทั้งน่าพึงพอใจและสดชื่น

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
เมี่ยงคำไม่เพียงแต่เป็นอาหารว่างที่มีรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอีกด้วย:

อุดมไปด้วยใยอาหารจากใบพลูและวัตถุดิบสดใหม่
มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจากหอมแดง มะนาว และขิง
ดีต่อการย่อยอาหารเนื่องจากมีขิงและไฟเบอร์

เมี่ยงคำเป็นตัวแทนความกลมกล่อมของอาหารไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือของว่างก็ให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าพึงพอใจ หากคุณมีโอกาส อย่าพลาดที่จะลองชิมขนมไทยแสนอร่อยนี้

6
เปรียบเทียบสินเชื่อเงินสดแบบไม่มีหลักประกัน กู้ผ่านง่ายหรือยาก

สินเชื่อเงินสดเป็นตัวช่วยแรกๆ ที่คนมีปัญหาการเงินหรือต้องการเงินฉุกเฉินเลือกกู้นะคะ แต่ก่อนกู้ก็ต้องเปรียบเทียบสินเชื่อเงินสดให้ดีนะคะ เพราะสินเชื่อเงินสดยังแบ่งออก 3 ประเภท คือ บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด, และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งปกติแล้วจะมีทั้งแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่ต้องค้ำประกันด้วยนะคะ ดูเพิ่มเติม เปรียบเทียบสินเชื่อเงินสดแบบมีหลักประกัน ใช้อะไรค้ำประกันได้บ้าง เราทราบกันแล้วว่าใช้อะไรค้ำประกันสินเชื่อได้บ้างใช่มั้ยคะ... แล้วถ้าไม่มีหลักประกันล่ะ จะกู้ผ่านยากหรือเปล่า ต่างจากสินเชื่อแบบค้ำประกันอย่างไร ไปดูกันค่ะ

สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน  คืออะไร

คือ สินเชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อหรือสถาบันการเงินจะดูความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอกู้เป็นหลัก เช่น รายได้ ไปจนถึงประวัติทางการเงิน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน เช่น บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล

 สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน ต่างกัน สินเชื่อแบบมีหลักประกันอย่างไร

ต้องบอกว่าสินเชื่อทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกันมีจุดประสงค์ในการขอสินเชื่อต่างกันนะคะ สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันส่วนใหญ่จะมีวงเงินไม่สูงมาก ชำระคืนได้เร็ว เช่น บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด ส่วนแบบมีหลักประกันจะมีวงเงินสูง ก้อนใหญ่ ผ่อนชำระนาน เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่เราใช้บ้านหรือคอนโดมาเป็นหลักประกันนั่นเอง

 สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน กู้ผ่านยากหรือง่าย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนะคะ ว่าสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากรายได้ ความมั่นคงทางการเงิน ไปจนถึงเรื่องข้อมูลเครดิตบูโรเป็นหลักนะคะ ไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าหากไม่มีหลักประกันจะขอสินเชื่อไม่ผ่านนะคะ เรื่องประวัติทางการเงินของเราเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการสินเชื่อหรือสถาบันการเงินจะดูเป็นอันดับแรกๆ เลยล่ะค่ะ

7
การหายใจทางปากของเด็ก สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องมือจัดฟันเด็ก EF LINE

ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่ามีความสำคัญมาก ไม่แพ้กับปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายโดยรวม พ่อแม่ผู้ปกคองควรที่จะหมั่นสังเกตอาการ ถึงแม้ว่าเด็กจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีแล้วก็ตาม แต่การที่เด็กมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการดูดนิ้ว หรือดูดขวดนม รวมไปถึงพฤติการหายใจทางปากด้วย แต่การที่เด็กนอนหายใจทางปาก ถือวาเป็นภาวะที่อันตราย เพราะโดยปกติ เด็กจะหายใจทางจมูกเป็นหลัก เมื่อมีภาวะใดที่หายใจทางจมูกไม่ได้ เด็กจึงต้องอ้าปากหายใจ ดังนั้น ภาวะที่ทำให้หายใจทางจมูกไม่ได้ อาจจะเกิดจากทางเดินหายใจอุดตัน จากน้ำมูกหรือเสมหะ ซึ่งภาวะการหายใจทางปากนั้น ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กด้วย


ซึ่งอาจจะทำให้ ฟันเก ฟันไม่สบกัน โครงหน้าสั้นได้ ซึ่งความผิดปกติของใบหน้านั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE ซึ่งเครื่องมือ EF line สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 4 – 15 ปี โดยเครื่องมือใน EF LINE มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า รวมไปถึง สามารถแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุของเด็ก สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของภาวะหายใจทางปากของเด็ก ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็กด้วยเครื่องมือ EF LINE ซึ่งเป้นการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันสำหรับเด็ก

ก่อนที่เราจะมาพูดถึงการแก้ไขปัญหาด้วยเรื่องมือ EF LINE เราจะมาพูดถึงตัวเครื่องมือการจัดฟันก่อน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอจจะยังไม่รู้จักตัวเครื่องมือ EF LINE ที่เป็นเครื่องมือการจัดฟันสำหรับการจัดฟันในเด็ก โดย EF LINE นั้น เป็นเครื่องมือการจัดฟันที่มีลักษณะเป็นชิ้นยาง มีไว้เพื่อให้เด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็กสวมใส่

ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของพฤติกรรมต่างๆที่ส่งผลต่อฟัน หากเรามานั่งพูดถึงสาเหตุของการสบฟันที่ผิดปกติในเด็กจำนวนมาก ที่เรามักพบเจอได้บ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดจากนิสัยต่างๆ เช่น การดูดนิ้ว การกลืนที่ผิดปกติ หรือ การหายใจทางปากจากปัญหาทางเดินหายใจ อาจจะส่งผลให้ฟันหน้าบนยื่น หรือไม่สบฟันได้ในที่สุด ทันตแพทย์จะมีเครื่องมือรูปแบบต่างๆ ที่ช่วยแก้ไขนิสัยเหล่านี้ให้แก่เด็กได้นั่นเอง สำหรับปัญหาการหายใจทางปาก มักพบเมื่อมีการรบกวนระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ ต่อมทอลซินอักเสบ เป็นต้น มักพบว่าคนที่มีภาวะดังกล่าวจะมีอาการปากแห้งเสมอๆ นอนกรน ผลเสียที่เกิดขึ้นคือ ความสูงของใบหน้าด้านล่างมีค่ามากกว่าปกติ 

การสบฟันหน้าเปิด ขากรรไกรบนแคบกว่าปกติ การแก้ไขต้องพิจารณาสาเหตุที่มีความจำเป็นต้องหายใจทางปากอยู่เพราะความเคยชิน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อใส่เครื่องมือแก้ไข ถ้าเป็นในเด็ก ก็ใช้เครื่องมือ EF LINE ในการแก้ไขปัญหา สำหรับหลักการทำงานของเครื่องมือ EF line โดยปกติแล้วเด็กจะต้องสวมใส่เครื่องมือประมาณ 2 ชั่วโมง ในเวลากลางวัน และ 10 ชั่วโมง ในเวลาหลับตอนกลางคืน EF line จะทำการบังคับให้ขากรรไกรล่างอยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับขากรรไกรบน เป็นผลให้เกิดการปรับตัวของกล้ามเนื้อต่างๆ โดยรอบ สู่สภาวะใหม่ที่สมดุล ซึ่งก็เป็นผลย้อนกลับไป เป็นการควบคุมตำแหน่งของกระดูกขากรรไกรที่เปลี่ยนไปให้สมดุลด้วย เป็นลักษณะเสริมซึ่งกันและกันในตัว 


ดังนั้น จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดและรูปร่างของกระดูกขากรรไกรในทิศทางที่เหมาะสม ช่วยให้มีการปรับตำแหน่งของฟัน โดยมีเหตุมาจากแรงกระทำของกล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยรอบได้ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะสังเกตเวลาที่เด็กสวมใส่เครื่องมือ ควรให้เด็กส่อยู่นิ่งๆ ไม่เคี้ยวเล่น ไม่พูด ปากปิดสนิทเพื่อเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบปาก  ควรดื่มน้ำมากเพิ่มความชุ่มชื้นในปาก หรือถ้าหากมีอาการระคายเคืองบางตำเเหน่ง ใช้ยาทาเเผลในปาก ทาตรงบริเวณที่เจ็บเพื่อบรรเทาอาการได้ วันเเรกๆของการใส่อาจไม่สบายนัก แต่ร่างการจะปรับตัวยอมรับและดีขึ้นเอง

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลีนิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก มีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นเด็กที่มีสุขภาพฟันที่ดีได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากเด็กๆทุกคน เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

8
รีวิวแท็บเล็ต Nokia T20 แท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นแรกของโนเกีย เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาไม่เกินหมื่นบาท

Nokia T20 แท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นแรกจาก HMD และ Nokia ประเทศไทย ที่น่าจะมีหลายคนรอคอยอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็มาทำตลาดไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้นอกจากเรื่องของวัสดุ งานออกแบบ ที่มีความคงทนและคุ้มค่าตามสไตล์โนเกียแล้ว ยังมีเรื่องของการเป็นแท็บเล็ตอเนกประสงค์ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้ครบในราคาที่สามารถเข้าถึงได้


รวมถึงการดูแลด้านซอฟต์แวร์ด้วยการอัปเดทยาว ๆ 3 ปี ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์โนเกียด้วย ดังนั้นจึงเป็นแท็บเล็ตแอนดรอย์อีกรุ่นของตลาดหลักพันบาท ที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตราคาไม่สูง แต่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ครบรอบด้านเป็นอย่างมาก ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ของตัวเครื่องจะเป็นอย่างไร? ตามกันต่อได้ในบทความนี้เลยครับ!!

แกะกล่อง (Unbox)
สำหรับอุปกรณ์เริ่มต้นใช้งานภายในกล่อง Nokia T20 นอกจากตัวเครื่องที่นอนอยู่ด้านบนสุดแล้ว จะมีสายชาร์จ USB-C , อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, เข็มจิ้มซิม, ฟิล์มกันรอยใส, เคสแบบฝาพับและคู่มือการใช้งาน


รายละเอียดสเปกตัวเครื่อง
หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000x1200 พิกเซล (อัตราส่วน 5:3 | Brightness 400 nits)
CPU Octa-core Unisoc T610 ความเร็ว 1.8GHz
GPU Mali G52 MP2
RAM 4GB
ROM 64GB
MicroSD Card 512GB
Android OS 11
กล้องถ่ายรูปความละเอียด 8MP (Auto Focus, Flash LED)
กล้องหน้าความละเอียด 5MP (Fixed Focus)
Bluetooth 5.0
รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE ผ่านซิมการ์ดแบบ Nano SIM
LTE Band : 1,3,5,7,8,20,28
TDD Band : 38,40
WiFi dual-band (2.4GHz,5GHz)
Headphone jack:3.5 mm
Location:GPS/AGPS
USB Type-C (USB 2.0)
WiFi : 802.11 a/b/g/n/ac
แบตเตอรี่ 8200 mAh (Fast Charge 15W)

รอบตัวเครื่อง (Design)
ภาพรวมของออกแบบตัวเครื่อง Nokia T20 ให้อารมณ์ที่เรียบง่าย คลาสสิก มีความมินิมอลพอสมควร และงานประกอบแน่นหนา รวมถึงวัสดุที่ใช้กับตัวเครื่องจับแล้วสัมผัสได้ว่ามีคุณภาพตามสไตล์สแกนดิเนเวียนตามแบบฉบับโนเกียที่ไว้ใจในเรื่องนี้ได้เหมือนเดิม ตัวเครื่องมีขนาดกว้าง 157.6 x ยาว 247.6 x หนา 7.8 มิลลิเมตร มีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 465 กรัม

ด้านหน้าตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 1200x2000 พิกเซล (224 ppi) มีค่าความสว่าง 400 nits และมีฟีเจอร์บูสความสว่างขึ้น ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งหรือในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้าได้ โดยที่เรายังมองเห็นรายละเอียดของหน้าจอได้ชัดในระดับ 60-70% ส่วนการแตะสัมผัสสามารถแตะหรือลากนิ้วได้ลื่นติดนิ้ว ไม่รู้สึกหน่วงหรือต้องลากนิ้วหลายครั้งให้หงุดหงิด ขยับขึ้นไปด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 5MP ใช้ระบบโฟกัสภาพแบบ Fixed Focus


ด้านบนตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume), ไมค์ตัดเสียงรบกวนสองตำแหน่ง และช่องถาดซิมการ์ด 2 slot แบ่งเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด เพื่อใช้งานดาต้า และช่องสำหรับ MicroSD Card รองรับสูงสุดที่ 512GB


ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) และลำโพงเสียง OZO Audio

ด้านขวาตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง OZO Audio ทำงานร่วมกับลำโพงฝั่งซ้ายในการสร้างมิติเสียงแบบสเตอริโอ ขยับลงมาจะเป็นพอร์ต USB-C และช่องรูเสียบชุดหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร วางตำแหน่งไว้ตรงมุมเครื่องพอดี ซึ่งมีข้อดีตรงเวลาเราเสียบสายหูฟังเพื่อใช้งาน ตัวสายหูฟังจะไม่งอหรือโดนกดทับเวลาใช้งาน

ด้านหลังตัวเครื่อง ฝาหลังใช้วัสดุเป็น Aluminium เพราะฉะนั้นเวลาถือหรือจับจะเกิดรอยคราบน้ำมันจากนิ้วมือเราได้ง่าย แต่ให้ความแข็งแรงและพรีเมี่ยม ส่วนมุมซ้ายจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8MP มีระบบโฟกัสภาพแบบ Auto Focus


ใช้งานยาวนานด้วย Android OS แบบเพียว ๆ พร้อมการันตีอัปเดทยาว 3 ปี
ในด้านของซอฟต์แวร์ เมื่อเปิดเครื่องใช้งานก็จะพบกับระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชั่น 11 ซึ่งรองรับการอัปเดทขึ้น Android 12 ในอนาคตด้วย และทาง Nokia ไม่ได้ใส่ UI ใด ๆ ครอบทับเข้ามา ดังนั้นประสบการณ์การใช้งานทั้งหมดบนตัวเครื่องจะเป็นสไตล์ "Pure Android" จากทาง Google โดยตรง การใช้งานจึงไม่มีความซับซ้อน สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายด้วยตัวคนเดียว

นอกจากนี้ Nokia T20 ยังได้รับการการันตีจากทาง Nokia ในการได้รับการอัปเดทซอฟต์แวร์ Android OS ยาวนานถึง 2 ปี หรือ 2 เวอร์ชั่น และได้รับการอัปเดทแพทความปลอดภัยทุกเดือนต่อเนื่องถึง 3 ปี ซึ่งเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์เพียงแบรนด์เดียวในช่วงราคานี้ ทำให้ข้อมูลของคุณจะปลอดภัย และแท๊ปเล็ตจึงใหม่อยู่เสมอ

โดยข้อดีของการได้รับการันตีอัปเดทนานถึง 3 ปี แบบนี้ นอกจากเรื่องของความคุ้มค่า ที่เราจะสามารถใช้งานตัวเครื่องเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาจากการได้อัปเดทเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ได้นานถึง 2 ปี หรือ 2 เวอร์ชั่น แล้ว ยังมีเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานบนตัวเครื่อง ที่จะได้รับการปกป้องจากโลกออนไลน์อยู่ตลอดเวลาด้วยการอัปเดทแพทความปลอดภัยทุกเดือนตลอด 3 ปี ที่ใช้งานด้วยครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในยุคนี้เลย
เพราะทุกครั้งที่เราอัปเดทแพทความปลอดภัยตัวเครื่องของเราก็จะเหมือนเสริมเหล็กให้ป้อมปราการบนเครื่องของเราให้แน่นหนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ยามที่เราต้องทำธุรกรรมออนไลน์บนตัวเครื่องก็จะอุ่นใจและมั่นใจได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มีเพียงแท็บเล็ตโนเกียเจ้าเดียวในตลาดช่วงราคานี้ที่ให้ได้นะ


เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาไม่เกินหมื่นบาท (Highlights)
เรียนออนไลน์, ทำงาน หรือจะใช้พักผ่อนยามว่างก็ทำได้ลงตัว
Nokia T20 เป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้งานในหลาย ๆ รูปแบบได้ดีเกินคาดเลยล่ะครับ ซึ่งถ้าประเมินจากฮาร์ดแวร์ก็ยอมรับว่าส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำได้ในระดับ Basic หรือการใช้งานระดับพื้นฐานเท่านั้น แต่จากที่ผมได้ลองใช้ทำงาน เล่นเกม หรือด้านเอ็นเตอร์เทรน ตัวเครื่องกลับสามารถทำงานในระดับที่สูงกว่าได้ด้วย อย่างการเปิดภาพถ่ายระดับความละเอียด 720P หรือ 1080P เพื่อแต่งรูปหลาย ๆ รูป ด้วย Adobe Lightroom หรือจะเป็นการเปิดไฟล์เอกสาร PDF ที่มีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ ก็สามารถเปิดอ่านได้โดยใช้เวลาไม่นาน เป็นต้น

ด้านดูหนัง ฟังเพลง จัดว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีความจัดจ้านเกินราคาในด้านนี้อยู่เหมือนกันครับ เพราะลำโพงสเตอริโอที่ติดตั้งมา ให้คุณภาพที่ดีทีเดียว ตัวลำโพงให้กำลังขับที่กำลังดีไม่เบาและไม่หนาหรือดังจนเกินไป สามารถเปิดฟังในห้องส่วนตัวคนเดียวแบบได้อรรถรสด้วยระดับเสียงเพียง 30-40% เท่านั้น รวมทั้งยังมีเทคโนโลนีเสียง OZO Audio ที่เคยถูกใช้อยู่บนสมาร์ตโฟนระดับท็อปหลายรุ่นของโนเกียด้วย

จึงทำให้ลำโพงเสียงที่อยู่บน Nokia T20 มีความฉลาดและสามารถขับเสียงที่โอบล้อมและเหมาะสมกับผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้นด้วย ส่วนการรับชมคอนเทนท์บน Youtube ตัวเครื่องสามารถรองรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080P ในขณะที่บน Netflix จะรองรับแค่ 480P เท่านั้น เพราะเป็น Widevine L3

ส่วนการเล่นเกม ตัวเครื่องสามารถเล่นเกมหนัก ๆ อย่าง Alphalt 9 หรือเกมแนว MMORPG เช่น ROM, ROX ที่ต้องใช้ทรัพยากรเครื่องค่อนข้างมากในการประมวลผลได้นะครับ เพียงแต่คุณภาพของภาพในตัวเกมอาจจะไม่ได้เต็มอิ่มมากเท่าไรนัก แต่ก็เพียงพอที่จะรู้สึกสนุกไปกับคอนเทนท์ของตัวเกมได้

ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยคะแนนแอปพลิเคชั่น Benchmark
ทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark ได้คะแนนรวม 193,386 คะแนน
ทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้คะแนน Single Core 347 คะแนน และ Multi-core 1218 คะแนน
ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่งวีดีโอ (Netflix) ผลเป็น Security Level L3

อุ่นใจกับน้อง ๆ ด้วย Kid Space และความปลอดภัยระดับองค์กร
Nokia T20 เป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ได้รับการการันตีจากทาง Google ว่าผ่านมาตรฐาน Android Enterprise Recommended (AER) หรือมาตรฐานอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่เหมาะสำหรับใช้งานในองค์กรหรือหน่วยงานได้ ซึ่งทาง Google จะพิจารณาจากปัจจัยที่อุปกรณ์นั้น ๆ ได้รับการอัปเดทแพทความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในองค์กรได้อย่างลงตัว รวมถึงสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ จากทาง Google เพื่อการบริหารจัดการได้ ดังนั้นถ้านำ Nokia T20 มาใช้งานในภาคของผู้บริโภคก็ช่วยการันตีได้เลยว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความอเนกประสงค์และความปลอดภัยในการใช้งานอยู่ในระดับสูง!!

นอกจากตัวเครื่องมีความปลอดภัยระดับสูงแล้ว Nokia T20 ยังมีโหมด "Kid Space" โหมดสำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่ต้องการดูแลเด็ก ๆ ในการใช้งานอุปกรณ์ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง โดยโหมดนี้จะเปิดให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบคอนเทนท์ต่าง ๆ บนโลกออนไลน์หรือบนตัวเครื่องให้กับน้อง ๆ ในการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมทั้งยังสามารถติดตามการใช้งานบนตัวเครื่องได้ด้วยนะว่า ใช้งานไปนานเท่าไร, เปิดอะไรดูบ้าง, มีการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตไหม หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอะไรมาลงบ้าง เป็นต้น ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจมากขึ้นกับการใช้งานของเด็ก ๆ


ใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8200 mAh และใช้งานดาต้า 4G LTE ได้ในตัว
Nokia T20 เป็นแท็บเล็ตที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 8,200 mAh เลยนะครับ ซึ่งจากที่ผมลองทดสอบใช้งานคือ มีเล่นโซเชียล, ฟังเพลงออนไลน์, ดูสตรีมมิ่งคอนเทนท์จาก Youtube, มีประชุมออนไลน์บ้างสัก 10-15 นาที และมีเล่นเกมบ้าง ใช้งานตั้งแต่เช้าจนกลับบ้านตอนดึกพลังงานของแบตเตอรี่ยังมีเหลือประมาณ 50-60% ซึ่งสามารถนำไปใช้งานต่อในวันรุ่งขึ้นได้เลย ถือว่าอึดอยู่นะครับ ส่วนเรื่องของการชาร์จไฟกลับเข้าสู่ตัวเครื่อง Nokia T20 รองรับการชาร์จไว 15W ซึ่งถ้าหากเริ่มชาร์จจาก 0% จนถึง 100% จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 2-3 ชั่วโมงจนเต็ม นอกจากนี้ Nokia T20 ยังรองรับการใช้งานดาต้าจากเครือข่าย 4G LTE ในตัวเลยนะ เพียงแค่ใส่ซิมการ์ดที่รองรับเข้าไปในตัวเครื่อง


กล้องถ่ายรูป 8MP ใช้งานง่าย เหมาะใช้งานทั่วไป
Nokia T20 มีกล้องถ่ายรูปหลักบนตัวเครื่องเพียงตัวเดียว โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 8MP ใช้ระบบโฟกัสภาพแบบออโต้โฟกัส ทำงานร่วมกับไฟแฟลช LED 1 ดวง เมื่อต้องการแสงช่วยเวลาถ่ายภาพ ซึ่งผลงานของภาพถ่ายหลังกล้องจากที่ผมได้ลองทดสอบถ่ายดู น่าจะเหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพเพื่อทำงาน หรือแชร์เรื่องราวของคอนเทนท์ให้เพื่อน ๆ บนโซเชี่ยลมากกว่า

ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องแบบ Single camera ด้วยเช่นกัน มีความละเอียด 5MP ระบบโฟกัสเป็นแบบ Fixed Focus ดังนั้นถ้าหากเราเข้าใกล้หรือขยับออกจากระยะโฟกัสของกล้องใบหน้าก็จะเบลอทันทีนะครับ ส่วนความชัดอยู่ในระดับการใช้งานสามารถ VDO Call ได้รู้เรื่องแน่นอน และหน้าตาเมนูการใช้งานของตัวกล้องก็เรียบง่าย ไม่มีความซ้ำซ้อนอะไรเลย เชื่อว่ามือใหม่ น้อง ๆ หรือคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ไม่ยากเลย ลองไปชมภาพตัวอย่างจากกล้องของ Nokia T20 กันครับ

สรุป (Conclusion)
มาถึงบทสรุปของ Nokia T20 แท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นแรกของ HMD และ Nokia ประเทศไทยกันแล้วนะครับ สำหรับตัวผมมองว่านี้คือ แท็บเล็ตแอนดรอยด์อีกรุ่นของตลาดแท็บเล็ตต่ำหมื่นที่มีความคุ้มค่าไม่แพ้ใครเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากประสิทธิภาพตัวเครื่องที่สามารถตอบสนองต่อรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายได้ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตจากเครือข่าย 4G LTE ได้ในตัวเลย จุดเด่นด้านซอฟต์แวร์ที่ได้รับการการันตีอัปเดทยาวถึง 3 ปี

ก็เป็นอีกจุดที่ผมว่ามันคือ "Highlights" ที่อิมแพ็คที่สุดแล้วล่ะครับสำหรับแท็บเล็ตแอนดรอยด์ในช่วงราคานี้ เพราะยังไม่มีแบรนด์ไหนที่การันตีให้เหมือนโนเกีย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานตัวเครื่องได้ยาวถึง 3 ปี เป็นอย่างน้อยเลยนั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ไม่ได้สนใจลูกเล่น ฟีเจอร์ล้น ๆ แต่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่จะเอาไปใช้งานยาว ๆ มีความทนทานสักเครื่องไปใช้งาน "Nokia T20" จะเป็นแท็บเล็ตที่คุณกำลังมองหาอยู่ครับ!!

สำหรับใครที่สนใจทาง Nokia ประเทศไทย วางจำหน่าย Nokia T20 อย่างเป็นทางการในราคา 8,590 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ LAZADA, Shopee, JD Central, True Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ, TG FONE สาขาที่ร่วมรายการ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยจะมีรุ่น LTE Version วางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว และมีสีตัวเครื่องให้เลือกเพียงสีเดียวคือ สีน้ำเงิน Deep Ocean แบบในรีวิว ใครที่สนใจหรือมองหาแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ใช้งานได้ยาว ๆ ก็สามารถเข้าไปจับจองกันได้แล้ว!

9
หมอออนไลน์: หลอดลมพอง (Bronchiectasis)

หลอดลมพอง (โบราณเรียกว่า มองคร่อ) หมายถึง ภาวะที่หลอดลมบางส่วนเกิดการขยายตัว (โป่งพอง) กว้างขึ้นกว่าปกติอย่างถาวร ซึ่งเป็นผลมาจากผนังหลอดลมถูกทำลาย ทำให้มีการติดเชื้อบ่อย เกิดอาการไอมีเสมหะเรื้อรัง

ภาวะนี้อาจเกิดกับหลอดลมเพียง 1-2 แห่ง หรือหลายแห่งก็ได้ มักเกิดกับหลอดลมขนาดกลางเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งก็อาจเกิดกับหลอดลมขนาดเล็ก ซึ่งจะถูกทำลายกลายเป็นแผลเป็น ถ้าเกิดกับหลอดลมขนาดใหญ่มักสัมพันธ์กับโรคเชื้อราแอสเปอจิลลัสของทางเดินหายใจ (allergic bronchopulmonary aspergillosis)

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในช่วงอายุ 20-40 ปี

บางรายอาจพบร่วมกับโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลมปอดโป่งพอง หรือหืด


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด) แบคทีเรีย (เช่น ไอกรน เชื้อสูโดโมเนส เคล็บซิลลา สแตฟีโลค็อกคัส ไมโคพลาสมา) เชื้อรา (เช่น แอสเปอจิลลัส) รวมทั้งการติดเชื้อของปอด เช่น ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ฝีปอด (lung abscess) เป็นต้น

บางครั้งการติดเชื้อดังกล่าว อาจมีสาเหตุชักนำ เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เอดส์ มะเร็ง) การอุดกั้นของหลอดลม (จากสิ่งแปลกปลอม เนื้องอกหรือมะเร็ง)

ส่วนน้อยเกิดจาการสูดแก๊สพิษหรือสารพิษ เช่น ควันบุหรี่ แอมโมเนีย คลอรีน ฝุ่นถ่านหิน หรือซิลิกา เข้าไปทำลายผนังหลอดลม

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากความผิดปกติของทางเดินหายใจโดยกำเนิด ซึ่งบางชนิดสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

สาเหตุเหล่านี้ทำให้ผนังหลอดลมถูกทำลาย รวมทั้งขนอ่อน (cilia) ที่เยื่อบุหลอดลมหลุดลอก สูญเสียกลไกในการขับสิ่งคัดหลั่ง (เสมหะ) เกิดการสะสมของเสมหะ ซึ่งมีเชื้อโรค ฝุ่น และสารระคายเคืองเจือปนอยู่ ส่งผลให้หลอดลมขยายตัว (โป่งพอง) บางครั้งกลายเป็นกระเปาะหรือถุงเล็ก ๆ (เป็นที่กักเชื้อโรค ส่งผลให้ติดเชื้อง่าย) ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป็นหลอดลมพองจะเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นวงจรของ "การติดเชื้อ → การทำลายผนังหลอดลม → การสะสมเสมหะ (และเชื้อโรค) → การติดเชื้อ ..." กระบวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มักจะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งจะค่อยเป็นค่อยไปจนถึงขั้นแสดงอาการเมื่อมีอายุมากขึ้น


อาการ

ที่สำคัญ คือ ไอเรื้อรังทุกวัน ออกเป็นเสมหะสีเหลืองหรือเขียวจำนวนมาก และมีกลิ่นเหม็น บางครั้งอาจออกมากถึงวันละ 1 แก้ว อาการไอจะเป็นมากเวลาตื่นนอนตอนเช้า และเวลาอยู่ในท่านอนตะแคง ลมหายใจมักมีกลิ่นเหม็น

ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย จะมีอาการไอออกเป็นเลือด (เนื่องจากผนังหลอดลมที่อักเสบมีการเพิ่มจำนวนหลอดเลือด ซึ่งมักจะเปราะและแตกง่าย) ลักษณะเป็นเลือดปนกับเสมหะ หรืออาจเป็นเลือดสดล้วน ๆ ก็ได้ มักออกเล็กน้อยและหยุดได้เอง ส่วนน้อยอาจมีเลือดออกจำนวนมาก บางรายอาจไม่มีอาการไอเรื้อรังมาก่อนอยู่ดี ๆ หรือหลังเป็นไข้หวัด ก็ไอออกเป็นเลือด

โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักไม่มีไข้ เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย หรือหอบเหนื่อยง่ายร่วมด้วย ยกเว้นเมื่อมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ซึ่งอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา โรคจะค่อย ๆ ลุกลามจนเป็นรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการหอบเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาใช้แรงมากและน้ำหนักลด


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อยคือ ปอดอักเสบ ซึ่งกำเริบได้บ่อย

อาจไอออกเป็นเลือดจำนวนมาก

อาจทำให้เกิดภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งถ้าเป็นรุนแรงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ได้แก่ ภาวะการหายใจล้มเหลว และภาวะหัวใจวาย ดังที่เรียกว่า โรคหัวใจเหตุจากปอด (cor pulmonale)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

การตรวจร่างกายระยะแรกอาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ในรายที่ไอมีเสมหะมาก ถ้านำเสมหะของผู้ป่วยใส่แก้วตั้งทิ้งไว้จะพบว่าแยกออกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นหนองข้น ชั้นกลางเป็นของเหลวใส และชั้นบนสุดเป็นฟอง

การใช้เครื่องฟังตรวจปอด มักได้ยินเสียงกรอบแกรบ (crepitation) เสียงอึ๊ด (rhonchi) และ/หรือเสียงวี้ด (wheezing) โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรวจบริเวณปอดส่วนล่าง

ในรายที่เป็นมาก อาจพบอาการนิ้วปุ้ม (clubbing of fingers)

บางรายอาจพบมีอาการของไซนัสอักเสบร่วมด้วย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ ตรวจเลือด บางครั้งอาจต้องใช้กล้องส่องตรวจหลอดลม (bronchoscopy) เพื่อค้นหาสาเหตุ (เช่น สิ่งแปลกปลอม เนื้องอก) ทำการทดสอบสมรรถภาพของปอด เพื่อประเมินความรุนแรงของโรค รวมทั้งการตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ ที่สงสัย เช่น เอดส์ วัณโรค เชื้อรา


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้

1. ในรายที่ไอมีเสมหะเหลืองหรือเขียวโดยสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี (ไม่มีอาการหอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก และน้ำหนักลด) ให้การดูแลรักษาดังนี้

    ให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน โคอะม็อกซิคลาฟ อีริโทรไมซิน ร็อกซิโทรไมซิน โคไตรม็อกซาโซล เป็นต้น) นาน 7-10 วัน
    ให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ถ้ามีเสียงวี้ดให้ยากระตุ้นบีตา 2 สูดหรือกิน เป็นต้น
    แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ (วันละ 8-12 แก้ว) ควรงดบุหรี่ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่ ฝุ่น ควันมลพิษในอากาศ
    ในรายที่มีเสมหะออกมาก หมั่นระบายออกในท่านอนระบายเสมหะ (postural drainage)โดยการนอนคว่ำพาดกับขอบเตียงและวางศีรษะบนพื้น โดยใช้มือหรือหมอนรอง ทำวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที

2. ถ้าไม่ดีขึ้น หรือไอออกเป็นเลือด หายใจหอบ เท้าบวม หรือกำเริบบ่อย แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุ ให้การรักษาตามอาการ (เช่น ให้น้ำเกลือ ให้เลือดออกซิเจน ยาขยายหลอดลม) และแก้ไขโรคที่เป็นสาเหตุ และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น ในรายที่ดื้อต่อยา หรือมีเลือดออกมาก อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

ผลการรักษา ในรายที่เป็นระยะแรกไม่รุนแรง การได้รับการรักษาอย่างถูกต้องแต่เนิ่น ๆ มักจะได้ผลดี อย่างไรก็ตาม ผลการรักษายังขึ้นกับความรุนแรงของโรค สาเหตุ และภาวะแทรกซ้อน


การดูแลตนเอง

หากมีอาการไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด ควรปรึกษาแพทย์

หากตรวจพบว่า เป็นหลอดลมพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ที่สำคัญคือ เลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ ดื่มน้ำมาก ๆ (วันละ 8-12 แก้ว) เพื่อช่วยขับเสมหะ

2. ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ โดยเรียนรู้วิธีใช้ยาที่ถูกต้อง และติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัดอย่างต่อเนื่อง

3. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไข้สูง หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    เจ็บหน้าอกมาก หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก
    ไอมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว หรือไอเป็นเลือด
    เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
    นอนราบไม่ได้ (เพราะรู้สึกหายใจลำบาก) หรือเท้าบวม
    ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ  2-3 วันแล้วไม่ดีขึ้น   
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล

การป้องกัน

1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพื้นฐานตั้งแต่วัยเด็ก

2. เมื่อเป็นโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจ ควรรับการรักษาอย่างถูกต้องแต่เนิ่น ๆ

3. ป้องกันการสำลักสิ่งแปลกปลอม

4. ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการสูดฝุ่นหรือสารพิษเข้าปอด


ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยควรติดตามรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง และเมื่อมีโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ

2. ผู้ป่วยควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค

10
motor expo 2025: DEEPAL HUNTER K50 ประกาศราคา 1,099,000 บาท พร้อมเปิดจองและจะส่งมอบตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน นี้เป็นต้นไป

CHANGAN Automobile ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ ประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ DEEPAL HUNTER K50 รถกระบะ REEV คันแรกของโลก ใน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 มุ่งปฏิวัติวงการด้วยพลังการขับขี่ไฟฟ้าเข้ากับศักยภาพการวิ่งระยะไกล ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ CHANGAN ในอุตสาหกรรมยานยนต์และความมุ่งมั่นที่มีต่อลูกค้าชาวไทยอย่างแท้จริง รุกตลาดประเทศไทยด้วยรุ่น REEV PLUS AWD ในราคาจำหน่าย 1,099,000 บาท พร้อมเปิดจองแล้ววันนี้ และจะส่งมอบตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
 

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการบริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย จำกัด และ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “DEEPAL HUNTER K50 คือยานยนต์ที่ไม่เพียงพลิกโฉมการเดินทาง แต่ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่อนาคตที่ยั่งยืนและล้ำสมัยยิ่งขึ้น เราภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นนี้สู่ตลาดประเทศไทยเพื่อส่งมอบสุดยอดสมรรถนะ ประสิทธิภาพอันเป็นเลิศ และประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับที่ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าและขจัดความกังวลเรื่องระยะทางด้วยเทคโนโลยี REEV อันเหนือชั้น นอกจากนี้ DEEPAL HUNTER K50 ยังผ่านการทดสอบและปรับแต่งอย่างพิถีพิถันให้เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถชาวไทยได้อย่างครอบคลุม เราเชื่อมั่นว่า DEEPAL HUNTER K50 จะสร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถกระบะและสร้างความคึกคักให้กับทั้งอุตสาหกรรม”

ข้อเสนอพิเศษและการรับประกัน

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและจอง DEEPAL HUNTER K50 REEV PLUS AWD ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 จะได้รับแพ็คเกจพิเศษ HUNTER Premium Care ประกอบด้วย
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. 1 ปี (ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล)
ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง
ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่ และ สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า V2L
รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
ฟรี บริการบำรุงรักษาครั้งที่ 1
เงื่อนไขข้อเสนอดอกเบี้ย 2.45% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทำการจอง DEEPAL HUNTER K50 REEV PLUS AWD ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 เมษายน 2568 จะได้รับแพ็คเกจเพิ่มเติม ฟรี การบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 5 ครั้ง  เมื่อทำการจองและรับรถกับผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ DEEPAL ทั่วประเทศ (พร้อมส่งมอบ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2568 เป็นต้นไป)
รายละเอียดของ DEEPAL HUNTER K50 REEV PLUS AWD

ภายนอก
มิติขนาดตัวถัง 5,380 × 1,980 × 1,875 มิลลิเมตร และระยะความสูงจากพื้น อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ ได้แก่ แผ่นรองพื้นกระบะท้าย,ฝาท้ายมีระบบผ่อนแรง,บันไดกระบะท้าย,บันไดข้าง
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง
ระบบไล่ฝ้ากระจกมองข้าง
ไฟหน้า LED (พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ,ฟังก์ชัน Follow Me Home,ปรับระดับได้)
ไฟท้าย LED
ไฟ Daytime Running Lights (LED)
ขนาดยางหน้า-หลัง (265/60R18)
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
ชุดอุดยางรั่วซึมแบบชั่วคราว)
ระบบ VtoL
เซ็นเซอร์ ตรวจจับวัตถุด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
ขนาดล้ออัลลอย 18 นิ้ว
ขนาดยางหน้า-หลัง (265/60R18)


ภายใน
ภายในโทนสีดำ (-เบจ)
เบาะหนังสังเคราะห์ พร้อมรูระบายอากาศ
เบาะปรับไฟฟ้า คนขับปรับ 6 ทิศทาง,มีระบบเป่าลมเบาะคู่หน้า
ม่านบังแดด (ฝั่งคนขับ,ฝั่งผู้โดยสารพร้อมกระจก)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
จอ Touch Screen 12.3 นิ้ว
จอ Monitor แสดงข้อมูลการขับขี่ LCD 7.5 นิ้ว
USB A 3 ตำแหน่ง
Bluetooth
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย
ระบบนำทางแผนที่ออนไลน์
ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 40 วัตต์
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
อุปกรณ์อื่นๆ เช่น การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต,มิวสิคสตรีมมิ่ง

พละกำลังเครื่องยนต์/มอเตอร์ไฟฟ้า
เครื่องยนต์ Range-Extender 2.0 Turbo 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ขนาด 1,998 CC กำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 390 นิวตันเมตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์คู่ Permanent Magnet Synchronous โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ด้านหลังให้กำลัง 177 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร กำลังรวม 272 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 ใน 7.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ 6.6 กิโลวัตต์
รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง 41 กิโลวัตต์
ระยะเวลาในการชาร์จกรแสตรง (30-80%) 30 นาที
ระบบเกียร์อัตโนมัติ ตำแหน่งเกียร์อยู่ตรงคอพวงมาลัย
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)
ความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร
ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า 131 กิโลเมตร
วิ่งน้ำมัน + ไฟฟ้า ระยะทางรวมกว่า 900 กิโลเมตร
ระบบความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
ระบบช่วยการทรงตัวขณะเข้าโค้ง
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
ระบบเบรค ABS
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบเสริมแรงเบรก BA
ไฟเบรกดวงที่ 3 LED
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบบันทึกวีดีโอการขับขี่รอบทิศทาง 360 องศา
เข็มขัดนิรภัย มีระบบเตือนคาดเข็มขัดด้านหน้า
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
ระบบสั่งการด้วยเสียงรองรับภาษาไทยและอังกฤษอัจฉริยะ
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาแบบ 3 มิติ พร้อมแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง
เบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Auto Hold
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
ระบบเตือนแรงดันลมยาง
ระบบกู้คืนพลังงาน
ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (Normal, Eco, Sport, Custom)

สีตัวถังมีให้เลือก 4 สี
Mocha Gray (สีเทาอ่อน)
Alpine White (สีขาว)
Ash Black (สีดำ)
Pine Green (สีเขียว)

11
จัดฟันบางนา: รู้หรือไม่ ? ทำไมการจัดฟันแบบใส invisalign ถึงดีกว่าการจัดแบบอื่น !

การจัดฟันแบบใส invisalign เป็นการจัดฟันที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเห็นการวางแผนของการรักษาและการเคลื่อนตัวของฟัน ได้ 100 % ถึงทำให้ผลการรักษาออกมาประสบความสำเร็จและมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และแก้ไขปัญหาของสภาพฟันได้ทุกกรณี ทำให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสและมรสุขภาพฟันที่ดีขึ้นอีกด้วย

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมการจัดฟันแบบใส invisalign ถึงดีกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่น ซึ่งการจัดแบบทั่วไปที่เราเห็นคือ มีการใส่เหล็กจัดฟันเข้าไปในช่องปาก แต่การจัดฟันแบบใส invisalign ทำให้มองแทบไม่เห้นเครื่องการจัดฟัน ทั้งยังสามารถถอดออกได้ด้วย นี่ก็เป็นจุดเด่นว่าทำการจัดฟันแบบใส ถึงดีกว่าการจัดฟันแบบอื่น นอกจากเครื่องมือที่แตกต่างกันแล้ว การจัดฟันแบบใสยังให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษา เพราะสามารถคาดการณ์ผลการรักษาได้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตามการจัดฟันแบบใส ยังเหมาะสมกับไลพ์สไตล์ของคนในสมัยนี้อีกด้วย เพราะประหยัดเวลาในการเข้าพบทันตแพทย์ สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจดดยแทบจะไม่เห้นเครื่องมือ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องมีเรื่องกังวลว่าเหล็กจะหลุดขณะรับประทานอาหาร และยังมีความเจ็บปวดที่น้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่น

นอกจากนี้ การดุแลรักษาความสะอาดของช่องปาก ก็สามารถทำได้ง่ายเพราะสามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะที่แปรงฟัน และยังใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี และเครื่องมือการจัดฟันแบบใส หรือ เทรย์นั้น สามารถถอดออกได้ และมีวิธีการดูแลรักษาที่ง่ายไม่ยุ่งยาก หากมีข้อสงสัยสามารถเข้ารับคำแนะนำจากทางคลีนิคได้ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

12
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


13
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


14
ปล่อยรถไมล์น้อย Tesla Model 3 รุ่น Long Range ปี 2024 สีขาวมุก ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

Tesla Model 3 Long Range ปี 2024 สีขาวมุก (Pearl White Multi-Coat) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซีดานยอดนิยมที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ (Project Highland) ทำให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยขึ้น เพิ่มระยะทางวิ่ง และปรับปรุงประสบการณ์ภายในห้องโดยสาร

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 15 มิ.ย. - 31 ส.ค. 2568
การรับประกันพื้นฐานของรถแบบจำกัด สูงสุด 4 ปี หรือ 80,000 กิโลเมตร
การรับประกันรถมือสองแบบจำกัด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

ราคาพิเศษ 1,882,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ขุมพลังและสมรรถนะ (Long Range AWD)
รุ่น Long Range AWD (All-Wheel Drive) มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual Motor) ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบสมรรถนะที่น่าประทับใจ:

กำลังสูงสุด: ประมาณ 340 kW (ประมาณ 460 แรงม้า)
แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 493 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ทำได้ในเวลาเพียง 4.4 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 201 กม./ชม.
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) มีความจุใช้งานได้ประมาณ 75.0 kWh
ระยะทางวิ่งสูงสุด (WLTP): 629 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นระยะทางที่ยาวไกลมากสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล
อัตราการใช้พลังงาน (WLTP): 140 Wh/km
การชาร์จ:
AC Charging (Type 2): สูงสุด 11 kW
DC Fast Charging (CCS 2): สูงสุด 250 kW (สามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 282 กม. ใน 15 นาที)


15
Doctor At Home: ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia)

ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ หมายถึง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ (ค่าปกติประมาณ 8.5-10.5 มก./ดล.)

เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนัก อาจพบได้ทั้งในทารกและผู้ใหญ่

สาเหตุ

1. ในผู้ใหญ่ส่วนมาก มีสาเหตุจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (เช่น ผู้ป่วยที่เป็นคอพอกเป็นพิษ หรือต่อมไทรอยด์โตมาก) แล้วตัดเอาต่อมพาราไทรอยด์ (ที่อยู่ใกล้กัน) ออกไปด้วย จึงทำให้เกิดภาวะขาดพาราไทรอยด์ (hypoparathyroidism) ต่อมนี้มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนช่วยรักษาระดับของแคลเซียมในเลือดให้อยู่ในสมดุลเมื่อต่อมนี้ทำงานได้น้อย ก็จะทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งอาจแสดงอาการภายหลังผ่าตัดแล้วเป็นปี ๆ ก็ได้ และอาจเป็นชั่วคราวหรือถาวรก็ได้

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยไม่ทราบสาเหตุ ภาวะขาดวิตามินดี ภาวะไตวายเรื้อรัง การกินแคลเซียมน้อยหรือขาดอาหาร ลำไส้ดูดซึมธาตุแคลเซียมได้น้อย โรคพิษสุราเรื้อรัง ภาวะโปรตีน (แอลบูมิน) ในเลือดต่ำ ภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง ภาวะโลหิตเป็นพิษ ภาวะเลือดเป็นด่าง (alkalosis ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน) ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน การใช้ยา (เช่น ยาขับปัสสาวะ สเตียรอยด์ ไรแฟมพิซิน เฟนิโทอิน ฟีโนบาร์บิทาล) เป็นต้น

2. ในทารกแรกเกิด ถ้ามีอาการภายใน 3 วันหลังคลอด อาจมีสาเหตุจากทารกคลอดก่อนกำหนดทารกมีภาวะขาดออกซิเจนขณะคลอด มารดาเป็นเบาหวาน หรือมารดามีภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานเกิน (ทำให้กดการทำงานของพาราไทรอยด์ในทารก เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำขึ้นในทารก) หรือทารกมีภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยกำเนิด

ถ้ามีอาการหลังคลอดเป็นสัปดาห์ขึ้นไป อาจมีสาเหตุจากการให้ทารกกินนมวัวที่มีสารฟอตเฟตสูง ทารกมีภาวะลำไส้ไม่ดูดซึมแคลเซียม หรือเกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากโรคอุจจาระร่วง ทารกมีภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยกำเนิด ภาวะขาดวิตามินดี (โรคกระดูกอ่อน) หรือภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (hypomagnesemia)


อาการ

ในรายที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำเล็กน้อย อาจไม่มีอาการแสดงให้ปรากฏชัดเจน หรือมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ มักตรวจพบจากการตรวจเลือด

ผู้ป่วยจะแสดงอาการเมื่อมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำค่อนข้างมาก อาการที่พบได้บ่อย คือ ผู้ป่วยจะมีอาการมือจีบเกร็งทั้ง 2 ข้าง แบบเดียวกับที่พบในผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน

นอกจากนี้อาจเป็นตะคริวที่ขา ใบหน้า หรือปวดบิดในท้อง บางรายอาจมีความรู้สึกชาที่ริมฝีปาก ลิ้น และปลายมือปลายเท้า

ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีอาการชัก

ในทารก อาจมีอาการชัก หายใจลำบาก ตัวเขียว บางรายอาจมีอาการอาเจียน (ซึ่งอาจรุนแรงจนเข้าใจผิดว่ามีภาวะกระเพาะลำไส้อุดกั้น)


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้ามีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำมาก ๆ อาจทำให้หัวใจวาย กล่องเสียงเกร็งตัวจนหายใจไม่ได้

หากปล่อยไว้เรื้อรัง (เช่น เกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์ที่ไม่ทราบสาเหตุ ไตวายเรื้อรัง) อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ กระดูกพรุน (ทำให้กระดุกหักง่าย) เป็นต้อกระจก ประสาทตาบวมหรืออักเสบ ความจำเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง ซึมเศร้า ประสาทหลอน

ถ้าหากเป็นตั้งแต่เล็ก ๆ หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ฟันเสีย ร่างกายไม่เจริญเติบโต และปัญญาอ่อนได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจพบมือจีบเกร็งทั้ง 2 ข้าง อาจเป็นตะคริวที่ขา หรือชัก

อาจตรวจพบรีเฟลกซ์ของข้อ (tendon reflex) ไวกว่าปกติ

อาจทำการทดสอบโดยการใช้เครื่องวัดความดันพันรอบแขนด้วยแรงดันที่สูงกว่าความดันโลหิตช่วงบนของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อที่มือเกร็ง (เรียกว่า "Trousseau sign") หรือใช้นิ้วชี้เคาะที่กระดูกโหนกแก้ม (zygoma bone) กระตุ้นให้กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก (เรียกว่า "Chvostek’s sign")   

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเจาะเลือดตรวจดูระดับแคลเซียม มีค่าต่ำกว่า 8.5 มก./ดล.ในผู้ใหญ่ (ต่ำกว่า 8 มก./ดล.ในทารกคลอดครบกำหนด หรือต่ำกว่า 7 มก./ดล.ในทารกคลอดก่อนกำหนด) ตรวจหาสาเหตุ (เช่น ตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนพาราไทรอยด์ วิตามินดี แมกนีเซียม ฟอสเฟต แอลบูมิน การทำงานของไต เป็นต้น) และอาจทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 


การรักษาโดยแพทย์

ในรายที่มีอาการเฉียบพลัน เช่น ชัก มือเท้าจีบเกร็ง หรือกล้ามเนื้อเป็นตะคริว แพทย์จะฉีดแคลเซียมกลูโคเนต 10 มล. เข้าหลอดเลือดดำช้า ๆ หรือผสมในน้ำเกลือหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ ซึ่งจะช่วยให้อาการทุเลาทันที

แพทย์ทำการตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น

    ในรายที่มีประวัติการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (สังเกตเห็นรอยแผลที่คอ) อาจต้องให้ผู้ป่วยกินเกลือแคลเซียม เช่น แคลเซียมกลูโคเนต เป็นประจำทุกวัน   
    บางรายอาจมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำชั่วระยะหนึ่ง และอาจหายได้เอง แต่บางรายก็อาจเป็นถาวร ซึ่งต้องคอยกินยารักษาตลอดไป
    ในรายที่เกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์ อาจให้กินเกลือแคลเซียม ร่วมกับวิตามินดี เช่น แคลเซียมทริออล (calcitriol) ร่วมด้วย เป็นประจำทุกวัน ผู้ป่วยอาจต้องกินยาติดต่อกันตลอดไป โดยแพทย์จะนัดตรวจระดับแคลเซียมในเลือดเป็นครั้งคราว


ผลการรักษา ขึ้นกับสาเหตุ รายที่มีสาเหตุที่แก้ไขได้ (เช่น สาเหตุจากการใช้ยาบางชนิด, การกินแคลเซียมน้อยเกินไป, ภาวะเลือดเป็นด่าง) หรือเป็นเพียงชั่วคราว (เช่น ที่พบในทารกที่มีอาการเกิดขึ้นภายใน 3 วันหลังคลอดส่วนใหญ่, ภาวะแทรกจากการผ่าตัดไทรอยด์ในบางราย) มักจะหายขาดได้ แต่ถ้าเกิดจากภาวะขาดพาราไทรอยด์โดยกำเนิด จำเป็นต้องกินยารักษาตลอดไป

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการชัก มือจีบเกร็ง เป็นตะคริวที่ขา ใบหน้า หรือมีความรู้สึกชาที่ริมฝีปาก ลิ้น และปลายมือปลายเท้า ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    กินยาแล้วอาการไม่ทุเลา
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ขึ้นกับสาเหตุ สำหรับสาเหตุที่ป้องกันได้ อาจป้องกันได้ ดังนี้

    สาเหตุที่พบบ่อยคือ เกิดจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ อาจป้องกันโดยการระมัดระวังในการทำผ่าตัด และการให้วิตามินดีและแคลเซียมกินป้องกันก่อนผ่าตัด โดยพิจารณาจากระดับวิตามินดีและแคลเซียมในเลือดที่ตรวจพบก่อนผ่าตัด
    การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมพอเพียงกับความต้องการของร่างกาย
    การเฝ้าระวังภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ สเตียรอยด์ ไรแฟมพิซิน เฟนิโทอิน ฟีโนบาร์บิทาล
    การป้องกันภาวะไตวายเรื้อรัง โรคพิษสุราเรื้อรัง

ข้อแนะนำ

อาการที่พบได้บ่อยของผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำอย่างหนึ่ง คือ อาการมือจีบเกร็ง 2 ข้าง อาการลักษณะนี้อาจมีสาเหตุจากภาวะขาดพาราไทรอยด์ (ซึ่งเป็นผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ และจำเป็นต้องให้การรักษาด้วยการให้แคลเซียมเป็นประจำทุกวัน) หรือกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (ดู ภาวะกลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน) ซึ่งเป็นภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำชั่วคราว และเมื่อแก้ไขภาวะระบายลมหายใจเกินให้หายได้ ก็ไม่จำเป็นต้องให้แคลเซียม วิธีแยกสาเหตุ 2 อย่างนี้ได้ง่าย ๆ คือ หากตรวจพบรอยแผลผ่าตัดไทรอยด์ที่คอ ก็น่าจะเป็นภาวะขาดพาราไทรอยด์มากกว่ากลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน

หน้า: [1] 2 3 ... 27